โพลสวนดุสิต สำรวจเรื่องความสนใจการเมือง ส่วนใหญ่ค่อนข้างสนใจ เพราะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศ ติดตามการทำงานนายกฯมากที่สุด เหตุมีบทบาทสำคัญต่อบ้านเมือง เปรียบเทียบปีก่อนการเมืองเหมือนเดิม มองปัญหาการเมืองแก้ยาก แนะผู้นำเข้มแข็ง ยึดประโยชน์ชาติ ปชช.จึงจะดีขึ้น
วันนี้ (11 ธ.ค.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องความสนใจ “การเมืองไทย” สถานการณ์ทางการเมืองไทย ณ วันนี้ มีหลายประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการนำเสนอข่าวของสื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และเพื่อเป็นแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรมให้กับรัฐบาลต่อไป ซึ่งจากผลสำรวจจำนวนทั้งสิ้น 1,253 คน ระหว่างวันที่ 5-9 ธันวาคม 2559 สรุปผลได้ ดังนี้
เมื่อถามว่า ณ วันนี้ ประชาชนสนใจเรื่อง “การเมืองไทย” มากน้อยเพียงใด อันดับ 1 ค่อนข้างสนใจ 39.27% เพราะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้าน อยากเห็นการเมืองไทยเข้มแข็ง แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ อันดับ 2 ไม่ค่อยสนใจ29.93% เพราะไม่ค่อยได้ติดตามข่าวการเมือง เป็นเรื่องที่มีปัญหาและมีความขัดแย้งอยู่ตลอดเวลาจึงไม่อยากสนใจ อันดับ 3ไม่สนใจ 16.51% เพราะสนใจเรื่องปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า ไม่หวังพึ่งการเมือง ต้องพึ่งตนเองก่อน อันดับ 4 สนใจมาก 14.29% เพราะเป็นเรื่องสำคัญ มีผลต่อการบริหารบ้านเมือง เกี่ยวข้องกับประชาชนทุกคน ติดตามข่าวเป็นประจำ
เมื่อถามว่า “การเมืองไทย” เรื่องอะไรบ้างที่ประชาชนสนใจ อันดับ 1การทำงานของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 78.93% เพราะเป็นผู้นำประเทศที่มีบทบาทและมีความสำคัญต่อบ้านเมืองในทุกๆ ด้าน เป็นที่สนใจของประชาชน และถูกจับตามองจากหลายฝ่าย อยากรู้แนวทางการแก้ปัญหาบ้านเมือง อันดับ 2 รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 76.54% เพราะเป็นกฎหมายสูงสุดและสำคัญยิ่งต่อประเทศ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย อยากรู้เนื้อหารายละเอียด อยากให้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ และเป็นประชาธิปไตย อันดับ 3 การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล 66.24% เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อประเทศชาติและความเป็นอยู่ของประชาชน เศรษฐกิจชะลอตัว ค่าครองชีพสูง ข้าวของแพง ความเป็นอยู่ลำบาก อันดับ 4 การเลือกตั้ง 65.20% เพราะบ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไปได้ ประชาชนได้ใช้สิทธิใช้เสียงอย่างเต็มที่ ความขัดแย้งต่างๆ จะได้ยุติลง อันดับ 5 การทุจริตคอร์รัปชัน 57.46% เพราะ เป็นเรื่องที่มีมานาน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ผู้กระทำความผิดควรได้รับการลงโทษ อยากรู้ข้อเท็จจริง ฯลฯ
เมื่อถามว่า “การเมืองไทย” ณ วันนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร อันดับ 1 เหมือนเดิม 44.45% เพราะปัญหาการเมืองไทยแก้ไขยาก ไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศก็เหมือนเดิม ยังคงเล่นเกมการเมืองและขัดแย้งกัน การปล่อยข่าวสร้างกระแสเป็นระยะๆ ฯลฯ อันดับ 2 ดีขึ้น 41.82% เพราะบ้านเมืองสงบเรียบร้อย การทะเลาะเบาะแว้งลดน้อยลง รัฐบาลเข้มงวด เอาจริงเอาจัง มีประสบการณ์มากขึ้นและพยายามแก้ไขให้เป็นรูปธรรม การเดินหน้าสานต่อนโยบายต่างๆที่ประกาศไว้อย่างเต็มที่ อันดับ 3 แย่ลง 13.73% เพราะ นโยบาย แนวทางต่างๆ ของรัฐบาลอาจสร้างความไม่พอใจให้กับคนบางกลุ่ม ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น มีหลายเรื่องที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อถามว่า ทำอย่างไร “การเมืองไทย” จึงจะดีขึ้น อันดับ 1 ผู้นำต้องเข้มแข็ง ทำงานโดยยึดประโยชน์ของชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ 70.25% อันดับ 2 นักการเมืองมีความสามัคคี ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก หยุดทะเลาะเบาะแว้ง68.87% อันดับ 3 ต้องรับฟังข้อมูลอย่างมีสติ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน63.02% อันดับ 4 การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทุกคนอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย 59.30% อันดับ 5 ทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนาการเมืองไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม 56.97%