ดุสิตโพลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่อยากให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เร็วที่สุด เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่เชื่อว่าบ้านเมืองจะเหมือนเดิม เพราะอาจได้พวกกลุ่มเก่าเข้ามาทำงาน มีการทุจริตคอร์รัปชัน หวังผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม แบ่งพรรคแบ่งพวก
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,226 คน โดยสำรวจระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค. 2559 จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กรณีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งปี 2560 และให้เป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ซึ่งหลายฝ่ายต่างแสดงความคิดเห็นต่อการลงประชามติอย่างหลากหลาย เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวดังกล่าว
ผลสำรวจ ณ วันนี้ ประชาชนต้องการให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อใด อันดับ 1 ต้องการเลือกโดยเร็วที่สุด 36.22% เพราะอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ มีตัวแทนของประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ต่างชาติให้การยอมรับ ฯลฯ อันดับ 2 ต้องการเลือกแต่บ้านเมืองต้องสงบก่อน 28.38% เพราะอยากให้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศอย่างราบรื่น จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายตามมา ยังมีหลายกลุ่มที่ขัดแย้งกัน ฯลฯ อันดับ 3 ต้องการเลือกเมื่อมีการปฏิรูปด้านต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว 26.59% เพราะ ประเทศจะได้มีความพร้อมทุกๆ ด้าน การพัฒนาจะได้มีรูปแบบที่ชัดเจน มั่นคง และมีความยั่งยืน ฯลฯ อันดับ 4 ต้องการเลือกตามโรดแม็ปที่นายกรัฐมนตรีกำหนด 6.69% เพราะจะได้เป็นไปตามทิศทางที่กำหนดไว้ เป็นเวลาที่เหมาะสม รัฐบาลทำงานง่ายขึ้น ฯลฯ อันดับ 5 ไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง 2.12% เพราะไม่ว่าอย่างไรก็มีปัญหาตามมาไม่จบสิ้น การเลือกตั้งอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาที่มีมานานได้ ฯลฯ
ส่วนถ้ามีการเลือกตั้ง ส.ส.แล้วจะทำให้การเมืองไทยภายในประเทศเป็นอย่างไร อันดับ 1 เหมือนเดิม 53.34% เพราะอาจได้คนกลุ่มเดิมเข้ามาทำงาน ยังคงมีการทุจริตคอร์รัปชัน หวังผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม แบ่งพรรคแบ่งพวก ฯลฯ อันดับ 2 ดีขึ้น 41.93% เพราะประเทศได้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ได้นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ได้เลือกคนที่ดีและเหมาะสมเข้ามาทำงาน ฯลฯอันดับ 3 แย่ลง 4.73% เพราะปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองสะสมมานาน แก้ได้ยาก อาจเกิดการเคลื่อนไหวจากกลุ่มที่ไม่พอใจ ฯลฯ
ขณะที่ถ้ามีการเลือกตั้ง ส.ส.แล้วจะทำให้ประเทศไทยในสายตาต่างประเทศเป็นอย่างไร อันดับ 1 ดีขึ้น 64.12% เพราะเป็นประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประเทศมีเสถียรภาพมั่นคงมากขึ้น ได้รับการยอมรับจากต่างชาติ ฯลฯ อันดับ 2 เหมือนเดิม 34.09% เพราะประเทศต้องพัฒนาอีกหลายด้าน ต้องรอดูการบริหารงานของรัฐบาลในระยะยาว ปัจจุบันต่างชาติก็ให้การยอมรับอยู่บ้าง ภาพลักษณ์ของประเทศไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ฯลฯ อันดับ 3 แย่ลง 1.79% เพราะ หากมีการขัดแย้งหลังจากการเลือกตั้ง มีความวุ่นวายทางการเมือง ก็อาจทำให้สถานการณ์แย่ลง ฯลฯ
ส่วนประชาชนคาดว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มาจะเป็นอย่างไร อันดับ 1 น่าจะเหมือนเดิม 49.43% เพราะผู้สมัครและพรรคการเมืองยังเป็นคนกลุ่มเดิม นโยบายแนวทางการทำงานเหมือนเดิม หวังแต่ผลประโยชน์ของตน ประชาชนอาจเบื่อหน่ายระบบการเมืองไทย ฯลฯ อันดับ 2 น่าจะดีขึ้น 45.51% เพราะประชาชนตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากขึ้น การปฏิรูปช่วยให้ระบบการเลือกตั้งดีขึ้น มีการกำหนดคุณสมบัติผู้สมัคร มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด การซื้อสิทธิ์ขายเสียงอาจน้อยลง ฯลฯ อันดับ 3 น่าจะแย่ลง 5.06% เพราะปัญหาการเมืองไทยแก้ไขได้ยาก คนยังมีความขัดแย้ง การเลือกตั้งอาจไม่ได้แก้ปัญหาได้ทั้งหมด ฯลฯ