ประธาน กรธ.ร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง และร่าง พ.ร.ป.กกต.เสร็จในเดือนนี้ ใช้หลักการเมืองเป็นที่พึ่งประชาชน ขจัดคนทุจริต ใครซื้อขายตำแหน่งรัฐมนตรีมีโทษถึงประหาร
นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับแก้คำปรารภในร่างรัฐธรรมนูญว่า คาดว่าวันนี้คณะรัฐมนตรีจะส่งหนังสือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมายัง กรธ. และ กรธ.ก็จะส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญที่ปรับแก้แล้วให้คณะรัฐมนตรีในวันเดียวกันซึ่งยังอยู่ในช่วงระยะเวลา 30 วันของรัฐบาลในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ดังนั้น ตนยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 กำหนด
นายมีชัยกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมืองนั้นขณะนี้ได้เดินหน้าไปเกินครึ่ง คาดว่าจะเขียนเสร็จสมบูรณ์ภายในสัปดาห์นี้ และจะเริ่มยกร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในสัปดาห์หน้า โดยต้องทำกฎหมายสองฉบับนี้ควบคู่กันให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ การเขียนบทเฉพาะกาลของกฎหมายพรรคการเมืองต้องรอให้เขียนตัวบทกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน เพื่อเขียนบทเฉพาะกาลให้รองรับกับกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพื่อที่จะให้พรรคการเมืองได้มีเวลาและไม่ได้รับความกระทบกระเทือนจากกฎหมายที่เขียนขึ้นมาใหม่ ถ้าคุณสมบัติของสมาชิกผิดแปลกไปจากกฎหมายเดิม ก็ต้องเขียนในบทเฉพาะกาลว่าพรรคการเมืองต้องทำอย่างไรกับสมาชิก ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ รวมถึงคุณสมบัติของกรรมการบริหารพรรคด้วย
สำหรับการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ พ.ร.ป.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับจะมีรูปแบบเวทีใกล้เคียงกับการลงพื้นที่ชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญ โดยแยกการรับฟังความเห็นเป็นกลุ่ม ต่อกฎหมายหนึ่งฉบับ ทั้งนี้พรรคการเมืองยังสามารถเสนอความคิดเห็นหลังจากที่ กรธ.ส่งกฎหมายให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ได้
ทั้งนี้ ทาง กรธ.ร่างกฎหมายให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่จะประกาศใช้ โดยยึดหลักให้การเมืองเป็นที่พึ่งของประชาชน ประชาชนมีส่วนร่วม ขจัดคนทุจริต เช่น การซื้อขายตำแหน่งในพรรคการเมืองบางพรรค ส.ส.ที่อยากเป็นรัฐมนตรีต้องนำเงินไปให้หัวหน้าพรรค กรธ.จึงเขียนห้ามไว้ และกำหนดโทษผู้ขายตำแหน่งสูงถึงประหารชีวิต และเอาผิดกับผู้ที่ให้เงินด้วย ส่วนกลไกการตรวจสอบจะเขียนไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ยืนยันไม่ได้เขียนกฎหมายเฉพาะเจาะจงกับพรรคการเมืองใด