ปลัด มท.ทำหนังสือด่วนที่สุดรับมือชาวนาประท้วง จี้ผู้ว่าฯ ใช้ศาสตร์-ศิลป์ของมหาดไทยแจ้ง “ชาวนา” ย้ำรัฐกำลังแก้ปัญหาข้าวเปลือกตกต่ำ สั่งตั้งอนุกรรมการติดตามผลระดับจังหวัด เชิญชาวนา-โรงสี ให้เปิดประชุมด่วนบ่ายโมงวันนี้ คู่ขนานนายกฯ ถกบอร์ด นบข.
วันนี้ (31 ต.ค.) มีรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยทำหนังสือด่วนที่สุด เรื่องแนวทางการบริหารจัดการข้าวจากปลัดกระทรวงมหาดไทยถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด (ยกเว้น 14 จังหวัดภาคใต้) มีใจความว่า
“เนื่องจากขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวใหม่ปี ๕๙/๖๐ และบางพื้นที่มีปัญหาราคาข้าวถูกกดราคาต่ำซึ่งถือว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ด้วย
มท.จึงขอให้ผู้ว่าฯ ได้ใช้ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและป้องกันแก้ไขปัญหาการร้องเรียนหรือการเคลื่อนไหวต่างๆ ดังนี้
๑. ให้จังหวัดจัดการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด และคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด รวมทั้ง เชิญประธานสมาคมชาวนาจังหวัดหรือผู้แทนชาวนาจังหวัด ประธานชมรมโรงสีข้าว และองค์กรเกษตรกรในจังหวัด โดยให้จัดประชุมในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ภายในเวลา ๑๒.๐๐ น. เพื่อรับทราบสถานการณ์ข้าว รวมทั้งหารือแนวทางจัดหารถเกี่ยวข้าวให้เพียงพอต่อปริมาณข้าวที่เกษตรกรจะเก็บเกี่ยว ข้าว และจัดทำข้อเสนอของชาวนา เพื่อป้องกันการร้องเรียนและการชุมนุมประท้วงของเกษตรกรรวมทั้งแนวทางการช่วยชาวนาอบข้าวเพื่อลดความชื้นด้วย แล้วส่งผลการประชุมให้กระทรวงพาณิชย์ และสำเนาให้กระทรวงมหาดไทยทราบด้วย
๒. ขณะนี้ มท.ทราบว่ากระทรวงการคลัง โดย ธ.ก.ส.จะนำเสนอมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนืยวในพี้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก ทำให้ชาวนาไม่ต้องรีบขายข้าว สามารถเก็บข้าวเปลือกไว้รอราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ชาวนาต้องตากข้าวให้แห้งเพื่อให้มีความชื้นไม่เกิน ๑๕% และในระหว่างชาวนารอขายข้าวจะได้รับสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. ไม่น้อยกว่า ๑๐ บาทต่อกิโลกรัม กับได้รับค่าเก็บรักษาข้าวเพื่อรอการขายอีกกิโลกรัมละ ๑.๕๐ บาท เพื่อให้ นบข. และคณะรัฐมนตรีพิจารณานั้น
ในชั้นนี้จึงให้จังหวัดชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมตามข้อ ๑.ทราบด้วยเพื่อขอให้ช่วยกันรณรงค์ให้ชาวนาชลอการขายข้าวไว้ก่อนเพื่อร่วมโครงการของธกส.ซึ่งจะทำให้ชาวนาขายข้าวได้ในราคาที่สูงกว่าปัจจุบัน จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการต่อไป”