สุรินทร์- ตายอย่างเขียด ข้าวเปลือกหอมมะลิราคาต่ำสุดในรอบ 40 ปี กิโลฯ ละ 5-6 บาท ชาวนาสุรินทร์โอดขาดทุนยับ แต่ต้องเร่งเก็บเกี่ยวนำออกเพื่อใช้หนี้ ธ.ก.ส. ร้องรัฐบาลช่วยเหลือด่วน ขณะรองผู้ว่าฯ สุรินทร์ พร้อมด้วยหน่วยงานรับผิดชอบรุดลงพื้นที่เรียกกำนันทุกตำบลประชุมเพื่อนำไปแจงชาวนาให้ชะลอการขายข้าวเปลือกไว้ก่อน และรอมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ น.ส.ดวงพร บุญครบ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดสุรินทร์ (กอ.รมน.สร.) เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัด (กกล.รส.) เกษตรอำเภอศีขรภูมิ ผู้ประกอบการโรงสีข้าว ธ.ก.ส. ศีขรภูมิ นายอำเภอศีขรภูมิ ได้เชิญกำนันจากทุกตำบลในพื้นที่อำเภอศีขรภูมิ ประชุมร่วมกัน
ทั้งนี้ เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาเรื่องของราคาข้าวที่ตกต่ำ โดยให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะกำนัน และผู้ใหญ่บ้านเร่งทำความเข้าใจชาวบ้านชะลอขายข้าวไว้ก่อน หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วให้ตากข้าวเปลือกให้แห้ง อย่างเร่งเกี่ยวทั้งที่ข้าวยังไม่สุกพอ ซึ่งในเร็วๆ นี้น่าจะมีมาตรการจากรัฐบาลออกมาช่วยเหลือ
โดยขณะนี้ชาวนาได้ทยอยนำข้าวเปลือกหอมมะลิ กข.15 ที่เก็บเกี่ยวเสร็จใหม่ ออกมาขายได้ราคาต่ำเพียงกิโลกรัมละ 5-6 บาท หรือตันละ 5,000-6,000 บาทเท่านั้น เนื่องจากโรงสีข้าวที่มารับซื้อให้เหตุผลว่า ข้าวเปลือกมีความชื้นสูง มีสิ่งเจือปนสูง ข้าวเปียกน้ำ และข้าวยังไม่สุกพอเก็บเกี่ยว แต่ชาวนาเร่งเกี่ยวก่อนกำหนด
ในที่ประชุมได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา และนำเสนอต่อยังหน่วยเหนือเพื่อรับทราบ ซึ่งข้าวที่ออกมาในช่วงนี้เป็นช่วงแรก และมีเศษวัชพืช ความชื้นสูง ข้าวยังไม่สุกเต็มที่ต่อการเก็บเกี่ยว ทำให้ถูกกดราคาอย่างมา ซึ่งที่ประชุมได้ให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะในส่วนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อยู่ใกล้ชิดกับชาวนาได้ประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจต่อชาวนา ให้ชะลอการนำข้าวออกขายในช่วงนี้ โดยขอให้ตากข้าวให้แห้งเพื่อลดความชื้นก่อน และให้เก็บเกี่ยวข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งหากความชื้นไม่เกิน 15% ผู้รับซื้อจะให้ราคาสูง แต่ในช่วงนี้ทางจังหวัดพยายามหารือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทางรัฐบาลอยู่ต่อเนื่อง คาดว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำในเร็วๆ นี้
ขณะที่สำนักงานสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาด ลูกค้า ธ.ก.ส.สุรินทร์ สาขา ศีขรภูมิ (สกต.ศีขรภูมิ) ได้มีบริษัท อิสเทิร์นไรซ์มิลล์ กำจัด จาก จ.กาฬสินธุ์ เดินทางมารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ กข.15 ขึ้นป้ายประกาศที่หน้าสำนักงาน สกต.ศีขรภูมิ ว่า สกต.สุรินทร์ รับชื้อเฉพาะข้าวเปลือกหอมมะลิ กข.15 และ 105 เท่านั้น โดยไม่ระบุราคาที่รับซื้อ โดยพบว่า มีชาวนาทยอยนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวเสร็จใหม่ไม่ตากแห้งมาขายอย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบคุณภาพข้าวเปลือกของชาวนาส่วนมากมีความชื้นสูง เมล็ดข้าวยังมีสีเขียว และมีสิ่งเจือปนมาก ซึ่งบริษัท อิสเทิร์นไรซ์มิลล์ กำจัด สามารถให้ราคาได้เพียงกิโลกรัมละ5- 6 บาทเท่านั้น แต่ชาวนายอมขาย เนื่องจากมีความจำเป็นต้องนำเงินไปจ่ายค่ารถเกี่ยว และค่าปุ๋ย ค่าหนี้ ธ.ก.ส. ที่ไปกู้ยืมมาลงทุนทำนา
ชาวนารายหนึ่งที่นำข้าวมาขายบอกว่า ตั้งแต่เกิดมามีครั้งหนึ่งอายุประมาณ 3 ขวบ จำได้ว่าราคาข้าวอยู่ที่กิโลกรัมละ 3-5 บาท ผ่านมากว่า 40 ปี เพิ่งมาเห็นครั้งนี้อีก ไม่คุ้มทุนต่อการทำนา เฉพาะค่ารถเกี่ยวไร่ละ 550 ไปแล้ว ทำนาเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่นา 11 ไร่ ขายข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้ 70,000 บาท แต่วันนี้ขายได้เพียง 20,000 บาท ราคาข้าวมาเป็นแบบนี้จะได้อะไรไม่คุ้มเลยเพราะ ทำนาลงทุนสูง ค่าเกี่ยว ค่าไถก็สูง เขาอ้างว่าน้ำมันแพง ราคาแรงงานแพง แต่ค่าข้าวเปลือกหอมมะลิคุณภาพดีที่สุดในโลกกลับราคาตกต่ำมาก ขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือชาวนาด้วย เพราะลำบากจริงๆ