เหตุการณ์ไฟไหม้ที่บ้านพักของนายอริสมันต์ ในซอยเสือใหญ่อุทิศ ย่านมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมในวันนี้ แม้สังคมจะมีปฏิกิริยาความรู้สึกอย่างไรก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่านายอริสมันต์ยังเป็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเมื่อกล่าวถึงวิกฤตทางการเมืองในห้วงเวลา 10 ปีให้หลัง
จากกรณีที่มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 342/2 ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9-3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. ของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทำให้ห้องพระชั้น 3 ได้รับความเสียหาย
ว่ากันอย่างตรงไปตรงมา ย้อนกลับไปในช่วงวิกฤตทางการเมืองปี 2552 นายอริสมันต์ถือเป็นแกนนำ นปช.คนสำคัญในการขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเฉพาะการเข้าไปพังการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ต พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2552
ในรายงานฉบับสมบูรณ์ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ระบุถึงการปราศรัยที่มีลักษณะเป็นการยั่วยุ ชี้นำ หรือส่งเสริมให้ใช้ความรุนแรง
พบว่า นายอริสมันต์ ปราศรัยเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2553 ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ระบุว่า “พี่น้องนัดกันคราวหน้า ถ้ารู้ว่าเขาจะปราบปราม ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก มาด้วยกัน ขวดแก้วคนละใบ มาเติมน้ำมันเอาข้างหน้า บรรจุให้ได้ 75 ซีซี ถึง 1 ลิตร ถ้าเรามาหนึ่งล้านคนในกรุงเทพมหานคร มีน้ำมันหนึ่งล้านลิตร รับรองว่า กทม.เป็นทะเลเพลิงอย่างแน่นอน”
“การสู้ของคนเสื้อแดงแบบง่ายๆ อย่างนี้ บอกให้ทหารได้รับได้ทราบ บอกให้ทหารสุนัขรับใช้อำมาตย์ได้รู้ว่า ถ้าคุณทำร้ายคนเสื้อแดง แม้เลือดหยดแต่หยดเดียวนั่นหมายความว่า กรุงเทพฯ จะเป็นทะเลเพลิงทันที ส่วนต่างจังหวัด จตุพร (พรหมพันธุ์) ได้บอกแล้ว ให้รอฟังข่าวว่า พี่น้องที่อยู่ในต่างจังหวัด ไม่ได้มาไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทันทีรวมตัวกันที่ศาลากลาง ไม่ต้องรอเงื่อนไข จัดการให้ราพณาสูรเหมือนกัน”
“ส่วนในกรุงเทพฯ นี้พี่น้องฟังให้ดีว่า ครั้งหนึ่งตอนที่พฤษภาทมิฬ มันมียุทธวิธีที่จะเอาทหารมาปราบพี่น้องประชาชน แต่ก็มีขบวนมอเตอร์ไซค์รักชาติ ได้จัดการไฟเขียวไฟแดงตามสี่แยกต่างๆ เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย รถติดกันทั้งกรุงเทพ รถ … ทั้งรถยีเอ็มซี ไม่สามารถส่งทหารมาจัดการกับพี่น้องประชาชนได้ในครั้งนั้น ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เราไม่ต้องปฏิบัติให้มันยุ่งยากจัดการสี่แยกไฟแดงให้เรียบ รถในกรุงเทพมหานครช่วยกันปล่อยลมยางทั้ง 4 ล้อให้มันติดทั้งกรุงเทพฯ อยากจะรู้ว่ารถทหาร มึงจะเข้ามายังไง แล้วถ้าทหารจะเข้ามาจริงๆ มันก็ต้องเดินเท้าเข้ามา ลองคิดดูว่า จะใช้ประชาชนใช้ทหารเท่าไหร่ คำนวณดูให้ดี พี่น้องไม่ต้องใช้อาวุธ พอเห็นทหารเดินเข้ามา เราเข้าไปใกล้ๆ 1 ต่อ 3 จัดการแล้วก็มัดทหารเอาไว้ ยึดปืนเอาไว้ ปฏิบัติตามนี้รับรองได้ว่า คนเสื้อแดงชนะพวกอำมาตย์อย่างแน่นอน”
“วันนี้การต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ชนะ เป้าหมายคือคุก หรือไม่ก็ตายเท่านั้นพี่น้อง ผมขอบอกข่าวดีว่า เดิมทีนั้น คนเสื้อแดงมีเพียงพรรคการเมือง และมวลชนเท่านั้น แต่วันนี้ แก้วอีกประการหนึ่งที่เรารอ นั่นคือกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เขาพร้อมสนับสนุน และปกป้องคนเสื้อแดง และพร้อมที่จะเป็นปรปักษ์กับกองทัพ ถ้ากองทัพทำร้ายประชาชน”
ต่อมา นายอริสมันต์ปราศรัยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2553 ณ เวที นปช.จังหวัดขอนแก่น ระบุว่า “พี่น้องที่จะเดินทางเข้าไปกรุงเทพฯ ด้วยกัน เตรียมตัวให้พร้อม อย่างแรกคือ 1 เสื้อผ้า ข้าวปลา อาหารแห้ง และขวดแก้ว 1 ขวด จำนวน 1 ล้านคน เราจะไปที่กรุงเทพฯ ขวดของเรานั้นไม่ต้องใส่น้ำมันไปจากขอนแก่น ไปซื้อเอาที่กรุงเทพฯ คนละ 1 ลิตร... 1 ลิตรเพื่อต่อรองกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าคุณจะคืนรัฐธรรมนูญ 40 ให้กับคนเสื้อแดงหรือไม่ 1 ลิตรนี้เพื่อบอกกับอำมาตย์ว่า ถ้าคุณเข่นฆ่าคนเสื้อแดงเลือดตกยางออกสัก 1 หยด นั่นหมายความว่าคุณก็จะไม่มีชีวิตอยู่บนแผ่นดินนี้เหมือนกัน”
นายอริสมันต์ยังปราศรัยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2553 ณ เวทีชุมนุม นปช.จังหวัดอุดรธานี ระบุว่า “ครั้งนี้จะเป็นการคิดบัญชีรัฐบาลทรราชอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพวกอำมาตย์เฒ่าทั้งหลาย คุณไม่ต้องมาบอกว่าสถานที่สำคัญที่เขาจะไปก่อวินาศกรรม คุณไม่ต้องไปปูดข่าวบอกว่าสถานที่ที่เป็นศาสนสถานของพวกมุสลิม โรงพยาบาลแล้วก็ถนนราชวิถี สะพานข้ามแม่น้ำโรงพยาบาลศิริราช สนามบิน ทำเนียบฯ กระทรวงสำคัญๆ ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ ค่ายทหาร บ้านบุคคลสำคัญ และศาลยุติธรรม และองค์กรอิสระ คุณไม่ต้องบอก ถ้าหากว่าคุณใช้ความรุนแรงกับคนเสื้อแดง รับรองว่าไอ้สิ่งที่คุณพูดถึงนี้จะไม่เหลืออยู่ในประเทศไทยอย่างแน่นอน”
และนายอริสมันต์ยังปราศรัยเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2553 ณ เวทีสะพานผ่านฟ้า ระบุว่า “แต่ถ้าวันพรุ่งนี้อำมาตย์ยังคงอยู่ อภิสิทธิ์ไม่คืนอำนาจ เรื่องวันพรุ่งนี้จะเป็นเรื่องของผมคนเดียวล้วนๆ วันนี้ประชาชนเสียเลือด พรุ่งนี้อำมาตย์ยังไม่หยุด อภิสิทธิ์ยังไม่ยุบสภา กูจะไปเอาเลือดมึงหัวมึงมาล้างเท้าให้ได้ ไอ้เทพ ไอ้มาร์ค ไอ้หน้าหนา ไอ้ใจหยาบช้า ฟังให้ดี วันนี้ประชาชนเสียเลือดนับล้านซีซีขอให้คืนประชาธิปไตยให้พื้นปฐพี ให้คนทั้งแผ่นดิน ถ้าวันพรุ่งนี้ยังไม่สานึกในประชาธิปไตยของคนส่วนใหญ่ จะขออนุญาตนาทัพไปบ้านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วย ผมอยากดูว่าเลือดชั่วในหัวมันจะแดงเข้มเหมือนคนเสื้อแดงในนี้หรือไม่”
นายอริสมันต์ยังปราศรัยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2553 ณ เวทีชุมนุมราชประสงค์ ขู่สื่อมวลชนที่เข้าข้างรัฐบาล ทั้งหนังสือพิมะและโทรทัศน์ หากไม่เป็นกลาง ถ้าเสื้อแดงชนะจะตามไปเอาคืน โดยเฉพาะช่องทีวี 3, 5, 7, โมเดิร์นไนน์ และ NBT
นอกจากนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยัง VDO Link มายังเวทีสะพานผ่านฟ้า ระบุว่า “ให้พี่น้องต่างจังหวัดไปที่ศาลากลาง กทม.ผมอยากฝากบอกคนเสื้อแดงทั่วประเทศ อีกครั้งหนึ่งว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นรุนแรงกับพี่น้องคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ พี่น้องเสื้อแดงต่างจังหวัดไปที่ศาลากลางกันให้เต็มที่”
กระทั่งวันที่ 19 พ.ค. 2553 เกิดเหตุการณ์จราจลจนกรุงเทพมหานครกลายเป็นทะเลเพลิงในที่สุด
นายอริสมันต์ หลบหนีไปต่างประเทศ ก่อนเข้ามอบตัวต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2554 กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2554 ศาลอุทธรณ์ปล่อยตัวชั่วคราวนายอริสมันต์ คดีร่วมกันก่อการร้าย โดยตีราคาประกันจำนวน 6 ล้านบาท ทั้งนี้ ห้ามจำเลยออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามมิให้จำเลยกระทำการใดๆ ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือก่อความไม่สงบในบ้านเมือง
มาถึงยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง นางระพิพรรณ พงษ์เรืองรอง ภรรยา นายอริสมันต์ ได้เข้ามาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามโควตาของกลุ่มคนเสื้อแดง
เรื่องที่วิจารณ์อีกประการหนึ่งก็คือ ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง พบว่านางระพิพรรณ มีเงินฝากในบัญชีอยู่ 2,988,135.78 บาท ขณะที่นายอริสมันต์มีเงินฝากอยู่เพียงแค่ 1.06 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีเงินฝากอยู่ 424,287.86 บาท
มีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า 3,720,267.43 บาท แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียด มียานพาหนะ มูลค่า 4,590,000 บาท ระบุรายการรถยนต์จำนวน 3 คัน คือ รถยนต์ TOYOTA ราคา 3 ล้านบาท 1 คัน, รถ HONDA ราคา 6 ล้านบาท 1 คัน และ HARLEY DAVISON ราคา 9,999,000 บาท 1 คัน (มูลค่ารถ 3 คัน มากกว่าราคาที่แจ้งไว้)
ส่วนหนี้สิน นางระพิพรรณแจ้งว่า มีเงินเบิกเกินบัญชี 62,687.63 บาท และมีเงินกู้จากสถาบันการเงิน 5,932,402.45 บาท ขณะที่นายอริสมันต์ มีเงินกู้จำนวน 3,720,267.43 บาท
รวมทรัพย์สินทั้งในส่วนของนางระพิพรรณ และอริสมันต์ คิดเป็นจำนวนเงิน 11,722,692.13 บาท หนี้สิน 9,715,357.51 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 2,007,334.62 บาท
ขณะที่การแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ช่วงพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2556 แจ้งว่า มีเงินเดือนประจำตำแหน่ง ส.ส. 1,278,465.81 บาท มีรายได้จากบิดามารดาสามี 1,000,000 บาท และรายได้จากค่าขายบ้านและที่ดินบางส่วน 15,000,000 บาท ส่วนนายอริสมันต์แจ้งว่า มีรายได้จากสัญญาจ้างทำของ เป็นจำนวนเงิน 8,100,096 บาท
ส่วนรายจ่าย นางระพิพรรณแจ้งว่า มีค่าผ่อนรถ MiNi เดือน ก.ค.-ธ.ค. 2556 จำนวนเงิน 129,738 บาท และค่าผ่อนที่ดิน ฉ.79819-20 เดือน พ.ค.-ธ.ค. 2556 จำนวนเงิน 6,740,972.84 บาท
ขณะที่ทรัพย์สิน นางระพิพรรณแจ้งว่า มีเงินฝาก 16,674,137.11 บาท มีเงินลงทุน 25 ล้านบาท มีที่ดินมูลค่า 9 ล้าน (ระบุในบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมว่ามีที่ดินจำนวน 3 แปลง เป็นของตนเอง 2 แปลง แปลงหนึ่งมีมูลค่าปัจจุบันกว่า 20 ล้านบาท และของสามี 1 แปลง) มีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3,720,261.43 บาท ยานพาหนะ 9,500,000 บาท ส่วนนายอริสมันต์แจ้งว่า มีเงินฝาก 14,175.92 บาท มีเงินลงทุน 2,600,000 บาท มีที่ดินมูลค่า 1,500,000 บาท ส่วนบุตรมีเงินฝาก 428,576.30 บาท
ขณะที่หนี้สิน นางระพิพรรณแจ้งว่า มีเงินกู้จากธนาคาร 2,259,027.16 บาท มีหนี้สินที่มีหนังสือเป็นหลักฐาน 32,952,213.40 บาท ส่วนนายอริสมันต์ มีเงินกู้จากธนาคาร 1,164,229.81 บาท
รวมทรัพย์สิน ทั้งในส่วนของนางระพิพรรณ และอริสมันต์ จำนวน 68,437,156.76 บาท หนี้สิน 36,297,822.24 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 32,139,334.52 บาท ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบข้อมูลการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทั้ง 2 ครั้ง พบว่า การแจ้งบัญชีครั้งล่าสุด นางระพิพรรณและอริสมันต์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากเดิม จำนวน 56,714,464.63 บาท และมีหนี้สินเพิ่มขึ้นจากเดิม 26,582,464.73 บาท
จากการตรวจสอบรายการทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมา พบว่า มีหุ้นบริษัท ที่ดิน และรถยนต์ รวมอยู่ด้วยจำนวนมาก โดยในส่วนของรถยนต์ แจ้งว่ามีจำนวน 7 คัน เป็นของนางระพิพรรณทั้งหมด โดยมีรถจำนวน 3 คันที่ได้มาครอบครองในช่วงปี 2556 คือ รถยนต์ BMW ราคา 4,200,000 บาท ได้รับมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2556 รถยนต์, มินิ ราคา 1 ล้านบาท ได้รับมาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2556 และรถยนต์ โฟล์กสวาเกน ราคา 1,800,000 บาท ได้รับมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2556
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องนายอริสมันต์ และนางระพิพรรณ ถือครองหุ้น บริษัท ดี สเตชัน จำกัด จำนวน 200,000 หุ้น มูลค่า 2 ล้านบาท แต่นายอริสมันต์และภรรยามิได้แจ้งการครอบครองทรัพย์สินดังกล่าวต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2556 ได้มีมติว่านายอริสมันต์และภรรยาไม่เจตนาในการปกปิดการถือครองหุ้นดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง ศอฉ. ได้มีคำสั่งให้ปิดและยึดอุปกรณ์เผยแพร่ภาพของสถานีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น นายอริสมันต์เกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงได้หลบหนีออกจากประเทศไทย
ตามสภาวการณ์เช่นนี้เชื่อว่านายอริสมันต์ คำนึงถึงเพียงเพื่อให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยเช่นวิญญูชนทั่วไป คงไม่มีโอกาสคิดปกปิดรายการเงินลงทุนดังกล่าว และในขณะเกิดเหตุการณ์ก็ทำให้เข้าใจได้ว่าบริษัทฯ ปิดกิจการไปแล้ว
เมื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย จึงทราบในภายหลังว่าบริษัทฯ ยังไม่ได้ปิดกิจการ อีกทั้ง นายอริสมันต์ถือครองหุ้นคิดเป็นมูลค่า 1,230,000 บาท คิดเป็นมูลค่าเพียงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของทรัพย์สินทั้งหมด
หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 และได้ประกาศให้แกนนำนักการเมืองปรับทัศนคติ นายอริสมันต์ได้เข้ารายงานตัวต่อ คสช.ที่ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2557
โดยที่ คสช.ได้ให้นายอริสมันต์ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) โดยมีเนื้อหาว่า ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองและฝ่าฝืนบรรดาคำสั่ง คสช., ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. และขอให้ยืนยันระหว่างถูกควบคุมตัว ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2558 ศาลจังหวัดพัทยา ตัดสินจำคุกนายอริสมันต์ 4 ปี พร้อมแกนนำเสื้อแดงรวม 13 คน ข้อหาชุมนุมเกินกว่า 10 คนขึ้นไป และผิด พ.ร.บ.จราจรดำเนินการปรับ 200 บาท หลังนายอริสมันต์พร้อมพวก ประท้วงพังโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่การประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ
แต่ต่อมา วันที่ 9 มี.ค. 2558 ศาลจังหวัดพัทยาได้มีคำสั่งอนุญาตให้มีการประกันตัวแกนนำ นปช. ทั้งหมด โดยวงเงินประกันของนายอริสมันต์ 2 ล้านบาท ซึ่งมีภรรยาเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนผู้ต้องหารายอื่นศาลได้อนุมัติให้ประกันตัวได้ในวงเงินรายละ 8 แสนบาท ก่อนที่ทั้งหมดจะปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษพัทยา
ความเคลื่อนไหวของนายอริสมันต์เงียบหายไป แม้จะมีแกนนำเสื้อแดงคนอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในประเทศไทย ใช้สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม พีซ ทีวี เผยแพร่อุดมการณ์ทางการเมืองของตนเองก็ตาม จน กสทช. ต้องสั่งระงับการแพร่ภาพในช่วงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
เหตุการณ์ที่บ้านพักของนายอริสมันต์ ในซอยเสือใหญ่อุทิศ ย่านมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษมในวันนี้ แม้สังคมจะมีปฏิกิริยาความรู้สึกอย่างไรก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่า นายอริสมันต์ยังเป็นที่ถูกหยิบยกขึ้นเมา เมื่อกล่าวถึงวิกฤตทางการเมืองในห้วงเวลา 10 ปีให้หลังในช่วงที่ผ่านมา
และคงเป็นการยากที่จะใช้ทฤษฎี “ผู้ชนะจะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์” ลบริ้วรอยด่างพร้อยของนายอริสมันต์ รวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นๆ ลงได้