นายกรัฐมนตรีเผย วธ.ถกท่องเที่ยว ทำยังไงต่อไม่ให้ใครเดือดร้อน ยันงานยังจัดได้ แต่เลี้ยงสังสรรค์ควรพิจารณา สั่งกวดขันภาพหมิ่นสถาบันฯ ยุยงให้แตกแยก ขออย่าแชร์เป็นอันขาด ย้ำสืบราชสันตติวงศ์ตาม รธน.อย่ากังวล เลือกตั้งยังตามโรดแมป สานต่อโครงการรัชกาลที่ ๙
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในเรื่องการจัดงานรื่นเริงบันเทิงในช่วงนี้ขอว่าในช่วง 30 วันแรกนับจากวันที่ 14 ต.ค.ขอให้มีการพิจารณาตามความเหมาะสม โดยทางกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังหารือกันในเรื่องนี้ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพราะมีผลกระทบหลายๆ อย่างด้วยกัน ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนแต่ต้องดำเนินการด้วยความเหมาะสม อาจจะต้องงดในส่วนที่เป็นมหรสพหรือความบันเทิง ดนตรี ร้องรำทำเพลง แต่การจัดประชุม งานมงคลสมรส ทอดกฐิน ลอยกระทง งานบำเพ็ญกุศล หรือศาสนกิจตามประเพณี สามารถกระทำได้ในรูปแบบที่เหมาะสม เชื่อว่าทุกคนเข้าใจอยู่แล้ว แต่เรื่องการเลี้ยงสังสรรค์ที่ทำในอาคารเฉพาะกลุ่มที่จัดปกติเนื่องจากได้เตรียมการไว้แล้วก็ต้องลองพิจารณาถ้าจำเป็นก็ดำเนินการได้ รวมถึงการรับนักท่องเที่ยวหรือผู้เข้าร่วมประชุม สามารถจัดได้ตามความเหมาะสม และคำนึงถึงความรู้สึกประชาชน และสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้เป็นหลัก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกวดขันระมัดระวังการแพร่ภาพหรือข้อความที่เข้าข่ายการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ยุยงให้เกิดความแตกแยก และทำให้เกิดผลสะเทือนจิตใจของประชาชนในช่วงนี้ ดังนั้น ขอความร่วมมืออย่าแพร่ภาพหรือข้อความดังกล่าวต่อไปเป็นอันขาด เพราะจะเป็นการเหยียบย่ำจิตใจคนไทย และผิดกฎหมายด้วย ขอให้ระมัดระวัง เพราะไม่อยากจะใช้กฎหมายในช่วงนี้ จึงต้องขอความร่วมมือทุกคนซึ่งคงเข้าใจแล้ว ตนเห็นแต่อย่าไปสร้างความขัดแย้งกันอีก ไม่ใช่ว่าจะใช้มาตรการรุนแรงอะไร แต่มีกฎหมายอยู่แล้วทำอย่างไรเขาจะเข้าใจและไม่ทำ ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องรวมพลังกันให้ได้ อาจจะเกิดจากการเข้าใจผิด แต่จะตั้งใจหรือไม่ ต้องไปดูกันให้ดี
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์นั้น ขอทุกคนอย่ากังวล ตนเคยพูดไปสองครั้งแล้ว เป็นเรื่องที่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ชัดเจน มีกฎมณเฑียรบาล และจารีตประเพณี ขอทุกคนทั้งในและต่างประเทศอย่าได้มีความกังวลหรือสงสัยใดๆ เพราะขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว เมื่อพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลผ่านพ้นช่วงเวลา 7 วัน 15 วันไประยะหนึ่งน่าจะได้เวลาอันสมควรที่จะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 23 ต่อไป นั่นคือขั้นตอนที่รัฐบาลจะต้องนำเรื่องแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อมีมติตามรัฐธรรมนูญ โดยระหว่างนี้รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่ามีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไปพลางก่อน เดี๋ยวจะเข้าใจอะไรกันผิดอีก ส่วนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะทรงลงพระปรมาภิไธยภายในกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ โดยจะไม่กระทบต่อปฏิทินการทำงานเป็นอันขาด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องต่อไปที่ทุกคนอยากทราบว่าเมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ แน่นอนประเทศหยุดไม่ได้ ยิ่งต้องช่วยและร่วมมือกันในการสร้างความเข้าใจ รวมพลังกันขับเคลื่อน สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลเดินหน้าประเทศซึ่งวันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนตามโรดแมปทุกประการยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นขอความร่วมมือว่าอะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาล่าช้า ขอร้องอย่าเพิ่งกระทำกันเลย ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติก่อน ดังนั้นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล รวมถึงเรื่องกฎหมายของรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งยังเป็นไปตามโรดแมปเดิม คงไม่ต้องมาถามว่าเมื่อไหร่อย่างไร
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนเรื่องการสานต่อโครงการของพระองค์ท่านรัฐบาลจะสร้างการรับรู้ให้มากยิ่งขึ้น จากผลงาน 2 ปีที่ผ่านมาว่าได้ทำอะไรไปบ้าง เพื่อเป็นการสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาโดยตลอด โดยใช้หลักการนำพระราชดำรัส พระราชดำริ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการขับเคลื่อนประเทศมาเป็นแผนที่เข็มทิศนำทางของประเทศมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรกร การบริหารจัดการน้ำ ปฏิรูปเศรษฐกิจ และกฎหมายต่างๆ ที่ออกมาในช่วงที่ผ่านมาทั้งหมดมาจากแนวพระราชดำริที่พระองค์ทรงรับสั่งว่าเราจะต้องดูแลประชาชนของเราให้ดีที่สุด ดังนั้นแน่นอนจะต้องมีกติกาอะไรต่างๆ ที่จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้เพื่ออนาคต โดยมุ่งหวังไม่ให้ใครเดือดร้อนและมีปัญหาทั้งสิ้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในเรื่องการสร้างความขัดแย้ง มีข่าวลือต่างๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ อาจจะด้วยเจตนาบริสุทธิ์บ้าง ไม่บริสุทธิ์บ้าง คิดว่าอันนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือเราต้องเชื่อมั่น ไว้วางใจซึ่งกันและกัน รับฟังข่าวจากรัฐบาลว่าตนพูดอะไร และไม่ต้องไปตีความมาก เพราะตนพูดชัดเจนอยู่แล้ว ฉะนั้นขออย่าตีความมากมายหรือเชื่อในข่าวลือ หลายอย่างออกมานั้นบางคนหวังดี เช่น การนำภาพน้ำท่วมปี 2554 ที่มีพระลอยคอบิณฑบาตมาเผยแพร่ เรื่องน้ำมากน้อยนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในแผนรัฐบาล ถ้าน้ำมากก็เดือดร้อนกันบ้าง ในบางพื้นที่ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเข้าไปดูแล อย่ามาติติงกันทุกเรื่อง มันเป็นปัญหาที่เราต้องแก้และจะทำให้ดีที่สุด