พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอความร่วมมือให้สื่อโทรทัศน์และวิทยุใช้เวลาในช่วง 30วัน ของการบำเพ็ญพระราชกุศล สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน เน้นการเสนอรายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในแง่มุมต่างๆ โดยอาจให้มีประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยการให้สัมภาษณ์ความรู้สึกและประสบการณ์ที่ประทับใจ
สำหรับการถ่ายทอดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ่ายทอดพร้อมกันนั้น ให้ทำเฉพาะในช่วงเสด็จพระราชดำเนิน โดยพ้นจากช่วงเวลาเหล่านี้แล้วอาจพิจารณาเสนอรายการปกติได้ แต่ควรเน้นการให้ความรู้ การพัฒนามากกว่าการบันเทิง
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เมื่อพ้นกำหนดช่วงเวลา 30 วันแล้ว ขอให้สถานีโทรทัศน์ค่อยๆ พิจารณาจัดรายการตามความเหมาะสมเป็นลำดับ โดยคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นสำคัญ
ส่วนการจัดงานรื่นเริงและบันเทิงต่างๆ ในช่วงเวลา 30 วันแรก นับแต่วันที่ 14 ตุลาคม ให้พิจารณาตามความเหมาะสม โดยงดเฉพาะส่วนที่เป็นมหรสพหรือความบันเทิง เช่น การแสดงดนตรี การร้องรำทำเพลง แต่ยังสามารถจัดงานประชุม งานมงคลสมรส กฐิน งานลอยกระทง งานบำเพ็ญกุศล หรือศาสนกิจตามประเพณีได้ การเลี้ยงหรือชุมนุมสังสรรค์ ที่ทำในอาคารและเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม ตามที่จัดเป็นปกติหรือได้เตรียมการไว้แล้ว ก็ให้จัดได้ตามความเหมาะสม
สำหรับการถ่ายทอดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ่ายทอดพร้อมกันนั้น ให้ทำเฉพาะในช่วงเสด็จพระราชดำเนิน โดยพ้นจากช่วงเวลาเหล่านี้แล้วอาจพิจารณาเสนอรายการปกติได้ แต่ควรเน้นการให้ความรู้ การพัฒนามากกว่าการบันเทิง
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เมื่อพ้นกำหนดช่วงเวลา 30 วันแล้ว ขอให้สถานีโทรทัศน์ค่อยๆ พิจารณาจัดรายการตามความเหมาะสมเป็นลำดับ โดยคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นสำคัญ
ส่วนการจัดงานรื่นเริงและบันเทิงต่างๆ ในช่วงเวลา 30 วันแรก นับแต่วันที่ 14 ตุลาคม ให้พิจารณาตามความเหมาะสม โดยงดเฉพาะส่วนที่เป็นมหรสพหรือความบันเทิง เช่น การแสดงดนตรี การร้องรำทำเพลง แต่ยังสามารถจัดงานประชุม งานมงคลสมรส กฐิน งานลอยกระทง งานบำเพ็ญกุศล หรือศาสนกิจตามประเพณีได้ การเลี้ยงหรือชุมนุมสังสรรค์ ที่ทำในอาคารและเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม ตามที่จัดเป็นปกติหรือได้เตรียมการไว้แล้ว ก็ให้จัดได้ตามความเหมาะสม