xs
xsm
sm
md
lg

คสช.โต้ “แม้ว” เร่งเดินหน้าชาติ ไม่ได้ถอยหลัง ขออย่าคล้อยตามการเมืองป้ายสีทุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
โฆษก คสช.สวน “ทักษิณ” จ้อแบบเดิมๆ ยัน รบ.ทำขัดแย้งลดลง ยุทธศาสตร์ชาติมีทิศทางเร่งไปข้างหน้ารอบคอบ ไม่ได้เข้าเกียร์ถอยหลัง ย้อนสังคมสงสัยน้ำท่วมต้นเหตุจาก รบ.ก่อน โต้ปฏิวัติไม่ใช่เพราะไม่พอใจคนคนเดียว ยึดประโยชน์ชาติ-ปชช. ยันทุกหน่วยงานพร้อมให้ตรวจสอบทุจริต ขอสังเกตให้ดี คสช.ไม่ได้หาประโยชน์ให้บุคคลใด อย่าคล้อยตามการเมืองที่ทำลายความน่าเชื่อถือ ย้ำจริงจังปราบโกง

วันนี้ (7 ต.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ไปพูดกับคนเสื้อแดงที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและ คสช.ในหลายประเด็น ว่าเป็นแค่มุมมองส่วนตัวและเป็นการออกมาพูดแบบเดิมๆ ที่เคยทำมา เชื่อว่าประชาชนฟังแล้วคงพิจารณาได้ว่าต้องการอะไร ส่วนการที่นายทักษิณได้กล่าวกับคนเสื้อแดงแสดงความเป็นห่วงบ้านเมืองที่ยังอยู่ในห้วงความขัดแย้งจนประเทศไม่เดินไปข้างหน้านั้น ตนคิดว่าตลอด 2 ปี ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและชัดเจนทั้งด้านการเมือง การพัฒนาแบบเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมีการวางโครงสร้างพื้นฐานและแก้ปัญหาในทุกเรื่องอย่างยั่งยืน ที่สำคัญประเทศเราได้เดินหน้าตามโรดแมปตามที่ทุกฝ่ายเห็นชอบ โดยเฉพาะเรื่องความสงบเรียบร้อย ประชาชนมั่นใจในการบริหารงานของรัฐบาล

ส่วนในเรื่องความขัดแย้งนั้น พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ลดระดับลง มีเพียงความพยายามของบางกลุ่มบางฝ่ายที่ยึดโยงกับผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องที่ยังมีการออกมาสร้างเรื่องให้สังคมเกิดความวุ่นวายเป็นระยะ ส่วนกรณีที่นายทักษิณติงว่าจะทำยุทธศาสตร์มันจะต้องเข้าใจโลกและเข้าใจตัวเอง แต่กลับเข้าเกียร์ถอยหลังแล้วเร่งคันเร่งนั้น พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เชื่อสังคมเห็นและสัมผัสได้ถึงเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของไทย เห็นความตั้งใจของรัฐบาลและ คสช.ที่บริหารประเทศอย่างมีทิศทาง วางกรอบประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ มีโรดแมป มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีการขับเคลื่อนงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ สิ่งเหล่านี้ได้ร่วมกันกำหนดทิศทางและเดินหน้าประเทศจนไทยผ่านพ้นและก้าวข้ามปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเฉพาะสามารถแก้ไขปัญหาที่ไทยยังไม่ผ่านมาตรฐานสากลในเรื่องต่างๆ เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ และแรงงานผิดกฎหมาย การแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน เป็นต้น

“คงไม่ใช่การเข้าเกียร์ถอยหลัง เสร็จแล้วถึงเร่งคันเร่งเดินหน้าอย่างที่กล่าว เพราะถ้าจะเปรียบจริงๆ คือการเร่งไปข้างหน้าด้วยความรอบคอบอย่างมั่นคงและระมัดระวัง” โฆษก คสช.กล่าว

ส่วนกรณีที่นายทักษิณระบุว่าน้ำท่วมก็โทษรัฐบาลที่แล้วนั้น พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ข้อสงสัยสังคมต่อเรื่องนี้ เชื่อว่าประเด็น ไม่น่าจะอยู่ที่ฝนตกลงมาในปริมาณสูงจนมีปริมาณน้ำมาก แต่ความกังวลสงสัยของสังคมขณะนั้น “จากที่ได้ติดตามข้อมูลดูเหมือนจะอยู่ที่การบริหารจัดการ ทั้งวิธีการบริหาร การแจ้งเตือน ให้ข่าวสารเพื่อการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือของประชาชน ทั้งๆ ที่มีเวลา แต่ข่าวสารในช่วงนั้นสับสนและอาจไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะที่ว่าเอาอยู่ เอาไม่อยู่” โฆษก คสช.กล่าว

พ.อ.วินธัยกล่าวว่า รวมถึงข้อสงสัยในเรื่องงบประมาณซึ่งจุดเริ่มต้นในการร้องครั้งนี้มาจากกลไกทางสังคมที่รู้สึกเคลือบแคลงสงสัย จึงมีการไปร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช.ก่อนหน้านี้มาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ใช่การดำเนินการโดยตรงจาก คสช.

ส่วนกรณีที่นายทักษิณระบุว่า เพราะไม่พอใจเขาคนเดียว อุตส่าห์ปฏิวัติตั้ง 2 รอบ ปฏิวัติพี่แล้วยังปฏิวัติน้องอีกนั้น พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เป็นมุมมองเดียวส่วนบุคคล เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องรักเรื่องชังที่ตัวบุคคลนั้นหรือบุคคลนี้ แต่ปัจจัยสำคัญๆ มีมากมายทั้งหยุดการสูญเสียชีวิตคนในชาติ รักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน รักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันมิให้เกิดความรุนแรงต่อกันของคนในชาติ แก้ปัญหาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินที่หยุดชะงัก แก้ปัญหาที่หมักหมมอื่นๆ ของประเทศอีกมากมายในแบบให้มีความมั่นคงยั่งยืน โดยรวมคือการรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนส่วนรวมทั้งประเทศ นั่นต่างหากเป็นสิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

พ.อ.วินธัยยังกล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและ คสช.ที่มีนโยบายการต่อต้านทุจริต แต่ถูกปลุกกระแสว่าทุจริตเหมือนยุคที่ผ่านๆ มาว่า ทุกหน่วยงานและกองทัพ รวมทั้งกองทัพบกยินดีที่จะให้ความกระจ่างสังคม โดยเฉพาะกรณีพบเห็น สงสัย เจ้าหน้าที่ทุจริตในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับจัดซื้อจัดจ้างสามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ การแข่งขันเพื่อหาผู้รับจ้างในปัจจุบันนั้นทุกหน่วยก็ยึดแนวทางการให้ประโยชน์สูงสุดกับทางราชการ ส่วนการเสนองานส่วนใหญ่ใช้การแข่งขันด้วยวิธีเสนอผ่านกรมบัญชีกลางด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นตามระเบียบแนวทางของราชการ

พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ส่วนช่วงนี้ที่มักพบข้อสงสัยที่อาจกระทบ คสช.เกี่ยวกับเรื่องทุจริตนั้นยังคลุมเครือ ดูไม่ค่อยชัดเจนว่าใครทุจริตและพยายามเบียดบังหาผลประโยชน์ที่มิชอบ ตรงไหน จุดไหน อย่างไร จึงอยากถามว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้บริหารโครงการ คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง หรือในส่วนเอกชนผู้รับจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาจนทำราชการเสียหาย หรือมีผู้ว่าจ้างละเลย รวมถึงมีขั้นตอนไหนที่ผิดระเบียบหลักเกณฑ์ทางราชการ

“ขอให้สังเกตให้ดีว่า ในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ที่มีต่อ คสช.อยู่ในขณะนี้ไม่ได้มีเรื่องของการเบียดบังหาประโยชน์เชิงส่วนต่าง หรือมีการรั่วไหลงบประมาณแอบแฝงไปเข้าให้ใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะกับตัวผู้บังคับบัญชา หรือบุคคลใด หน่วยงานใดในทางที่มิชอบเลย หรือแม้แต่ที่พยายามเปรียบเทียบว่ารัฐบาลการเมือง กับรัฐบาลยุค คสช.ทุจริตไม่แตกต่างกันนั้น ผมขอให้เชื่อมั่น คสช.และไม่อยากให้ไปคล้อยตามวิธีการต่อสู้แบบการเมืองที่พยายามสื่อสารไปว่าฉันไม่ดี เธอก็ไม่ดี เชื่อว่าสังคมมองออก และพร้อมแยกแยะว่าบางประเด็นเป็นเพียงความพยายามตอบโต้เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือในทางการเมืองผสมมาด้วย” โฆษก คสช.ตั้งข้อสังเกต

โฆษก คสช.กล่าวว่า ในยุค คสช.จริงจังต่อการแก้ปัญหาการทุจริต การดำเนินโครงการของรัฐทั้งขนาดใหญ่ขนาดเล็ก มีการวางแผนที่รัดกุมมีแผนการควบคุมที่ดีเพื่อปิดช่องโหว่เพื่อไม่ให้ใครหรือกลุ่มใดเข้าไปแสวงประโยชน์ในทางที่มิชอบได้ ดังเช่นโครงการอื่นๆ ที่เป็นคดีความกันอยู่ในขณะนี้ ส่วนคดีที่เกี่ยวกับการเมืองในอดีตที่ฟ้องร้องกันอยู่นั้น ส่วนใหญ่มีการยื่นเรื่องร้องทุกข์ ฟ้องร้องกันมาก่อนที่ คสช.จะเข้ามาอีก มีกลุ่มผู้ที่ชอบให้ความเห็นต่างกลุ่มเดิมมักนำเรื่องคดีความที่เกี่ยวกับบุคคลทางการเมืองในอดีตมาผสมรวมกันว่าทุกคดีเกิดจาก คสช. ทั้งที่ในความเป็นจริงส่วนใหญ่บุคคลทั่วไปเป็นคนไปร้องทุกข์ต่อ ป.ป.ช.กันไว้เองก่อนหน้านี้นานแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น