xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ อารมณ์ดีร่วมร้องเพลง “กำลังใจ” งานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาคนพิการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บิ๊กตู่” ให้โอวาทนักกีฬาพาราลิมปิกฯ ชมกีฬากับการท่องเที่ยว ทำให้มีความสุขมากที่สุดตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล ระบุไม่ใช่เจ้าพ่อ-ผู้มีอิทธิพล ไม่มีอำนาจไล่ใคร บอกโทษตัวเองว่าคิดถูกหรือผิดที่มายืนตรงนี้ รับทราบปัญหาดูแลโควตาสลากคนพิการ

เมื่อเวลา 18.30 น. ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเลี้ยงต้อนรับและมอบเงินรางวัลให้คณะนักกีฬาคนพิการ ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 15 ณ เมืองริโอ เดอ จาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้สิ่งสำคัญคือกำลังใจของตัวท่านเอง ท่านทำได้ดีกว่าคนปกติหลายคนที่น่ารำคาญ ตนหน้าบูดมาตั้งแต่เช้า และมายิ้มตอนที่ท่านมา เพราะตนยินดีกับท่านจริงๆ ไม่ได้ปกปิดความรู้สึก ดีใจก็ดีใจ เสียใจก็เสียใจ โมโหก็โมโห ไม่ชอบเสแสร้ง ตนมีความจริงใจให้ท่านทุกเรื่อง วันนี้รัฐบาลดูแลเรื่องกีฬาอย่างเต็มที่ ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล สิ่งที่ทำให้มีความสุขมากที่สุด คือ เรื่องกีฬากับการท่องเที่ยว แสดงให้เห็นว่าบ้านเรามีความสงบสุขคนถึงมาเที่ยว และกีฬาก็แสดงออกถึงความเป็นคนไทยเวลาไปแข่งต่างประเทศ นี่คือสิ่งสร้างสรรค์ของประเทศไทย ดีกว่าไปสร้างความขัดแย้ง อะไรก็ตามที่ไม่ควรกระทำในเวลานี้ เวลาไหนจะไปทำก็ไปทำ แต่เวลานี้ต้องทำให้ประเทศมีชื่อเสียงในเวทีโลก

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลแก้ปัญหาที่มีอยู่ขณะนี้ได้เป็นจำนวนมาก รัฐบาลเข้ามาในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติ สิ่งนี้คือศักยภาพของคนไทย ไม่ใช่เพราะตน เพราะทุกคนให้ความร่วมมือ แต่มีคนส่วนน้อยก็ไม่ได้ว่าอะไรเป็นเรื่องของท่าน ถ้าท่านไม่รักประเทศชาติของท่านเองแล้วท่านจะรักใคร ตนไม่รู้ ท้ายที่สุดท่านจะรักตัวเองหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าทุกคนเป็นคนดี พ่อแม่พี่น้องก็ภูมิใจ แต่ถ้าสร้างความเดือดร้อน มีคดีเยอะแยะไปหมด ก็ไม่ภูมิใจ มีความสุขหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะตนก็ไม่เคยโดน ฉะนั้น ต้องไม่ทำความผิด ไม่ทำความเลว และตนไม่ใช่คนตัดสิน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นักกีฬาที่มาวันนี้ก็ซ้อมกันเหน็ดเหนื่อย ส่วนตนเองก็เสียไปเยอะ ความเป็นส่วนตัวก็ไม่เหลือ ไม่ได้ไปเที่ยวไหน 3 ปีมาแล้ว อยู่แต่บ้านกับที่ทำงาน ตนก็ตั้งใจฝึกเหมือนนักกีฬา ฝึกความอดทนไง แต่ขีดจำกัดก็มีเหมือนกัน

นายกฯ กล่าวว่า ตนพูดเล่นในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าเราจะทำสนามการค้าให้เป็นสนามรบกันดีหรือไม่ เพราะมันรบกันทุกวัน มันขัดแย้งจนศักยภาพที่มีอยู่น้อยลงไป ตนว่ามันไม่ได้แล้วต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการ ตนไม่ใช่เจ้าพ่อ ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่คนที่ลุแก่อำนาจที่ใช้อำนาจไล่ทุกคนมันไม่ใช่ มันมีกระบวนการยุติธรรมอยู่ แต่ก็ยังมีผลกระทบกับตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทบกับคนบางคนที่ยังมีกรณีอยู่ อยากให้ทุกคนช่วยกันคิดอยู่ด้วยกันต้องเรียนรู้ ไม่ใช่คิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ ไม่ใช่ถามแค่วันนี้พรุ่งนี้หรือถามกับอดีต สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สร้างสรรค์ให้วันข้างหน้า เราควรถามในสิ่งที่ควรถาม อะไรที่เป็นอนาคตก็ต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่ขัดแย้งทุกเรื่อง แน่นอนว่าทุกเรื่องต้องมีความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงแต่จะทำอย่างไรที่จะทำให้ประเทศชาติไม่เสียหาย ประชาชนไม่บาดเจ็บล้มตาย นั้นเหละคือประชาธิปไตย จะทำอะไรก็ตามอย่าไปโทษคนอื่น สิ่งแรกที่ต้องนึกคือการโทษตัวเอง ทั้งหมดอยู่ที่ตัวเองทั้งสิ้น ตนก็พยายามโทษตัวเองอยู่ตลอดว่าผิดหรือถูกที่มายืนตรงนี้ ไม่ได้โทษใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกฯ ได้สอบถามนักกีฬาว่ามีใครจะสอบถามหรือไม่ ซึ่งตัวแทนนักกีฬาได้ขอให้นายกฯ ช่วยเรื่องโควตาในการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลและคืนโควตาให้แก่นักกีฬาที่เคยได้แต่ถูกตัดไป โดยนายกฯ กล่าวว่า ปัญหาที่มีคือเมื่อก่อนเคยให้โควตาสลากไปแต่ไม่ถึงนักกีฬาคนพิการ เพราะเขาเอาไปขายกันเอง รวมถึงคนพิการเอาสลากที่ได้ไปให้คนอื่นขายซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับความต้องการ เรื่องนี้กำลังแก้ปัญหาและกำลังสอบสวนติดตามอยู่ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ไปดูว่าสามารถจะรวมกลุ่มกันได้หรือไม่

“ที่ผ่านมาผมอยู่เฉยๆ ก็มีคนเอาเงินมาให้ผม ไม่รู้ว่าเป็นเงินจากสลากของท่านหรือเปล่า แต่ผมก็ถีบมันกระเด็นไปแล้ว ไม่ต้องมาให้กูหรอก มันมีจริงๆ ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อใคร เพราะเขาเคยทำกันมาแบบนั้นก็เลยคิดว่าผมจะเป็นแบบนั้นด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงไม่มายืนสู้หน้าคนได้แบบนี้หรอก ถ้าผมเป็นคนแบบนั้น สื่อก็ไม่ต้องไปเขียนให้พาดหัวตื่นเต้น อะไรที่ขายได้พาดหัวข่าว นายกฯ ถีบหน้า ท่านรู้ไหมว่ามันไปไหน ผมพูดกับท่านอยู่กับท่าน ผมพูดในห้องนี้ก็อยากให้อยู่ในห้องนี้ อยากจะพูดจา พูดเล่นกับท่านบ้างได้เลย ขยายไปข้างนอกทั้งหมด ถ้าอย่างนั้นต่อไป ไม่พูดเลยดีกว่า ใส่ตะกร้อมาทำงานทั้งวัน ไม่ต้องมาตอบอะไรใคร ขอร้องอย่าให้วันพรุ่งนี้ผมเป็นพาดหัวข่าว ไม่อย่างนั้นจะเลิกพูดกับหนังสือพิมพ์ ไม่ต้องมาถามอีกต่อไป” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงงานเลี้ยงอาหารค่ำ นายกฯ ได้ยืนฟังเพลงความสุขและความทรงจำ จนทำให้เกิดความตื้นตันและน้ำตาคลอ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นเวทีร่วมร้องเพลง “กำลังใจ” และกล่าวก่อนออกจากงานเลี้ยงว่าวันนี้มีความสุขและอารมณ์ดีแล้ว





กำลังโหลดความคิดเห็น