เอเอฟพี - สหรัฐฯ จะต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย 10,000 คนในปีการเงินนี้ ตามที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้สัญญาไว้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ประกาศเมื่อวานนี้ (20 ก.ค.)
วอชิงตันถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยนักเคลื่อนไหวบางกลุ่มสำหรับการเคลื่อนไหวที่ช้าเกินไปในการจัดหาที่อยู่ให้กับผู้ที่ลี้ภัยสงครามดังกล่าว ในขณะที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับโอบามาเตือนว่าในหมู่พวกเขาอาจมีผู้ก่อการร้าย
แต่เคร์รีกล่าวว่าสหรัฐฯในเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการรับผู้ลี้ภัยที่มีความเสี่ยงสูง 10,000 คน โดยเลือกจากค่ายของยูเอ็นและคัดกรองโดยหน่วยงานความมั่นคงและข่าวกรองของสหรัฐฯ
“ความช่วยเหลือของเราครั้งนี้เพิ่มขึ้น 6 เท่าจากปีก่อนหน้า” เคร์รีกล่าว โดยอ้างถึงปีการเงินของสหรัฐฯซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 30 กันยายน
“ผมภาคภูมิใจที่กล่าวว่า สหรัฐฯ เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินรายใหญ่ที่สุดอย่างขาดลอยแต่เรารู้ดีว่ายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากมาย” เขากล่าว
เคร์รีแสดงความคิดเห็นดังกล่าวที่งานเลี้ยงอาหารค่ำในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เนื่องใจวันหยุดอีดิลฟิฏรีของชาวมุสลิม ไม่นานก่อนที่เขาจะเริ่มการเดินทางเยือนเมืองหลวงในยุโรป
ในวันศุกร์ (15) เคร์รีจะไปเยือนกรุงมอสโคซึ่งเขามีกำหนดพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และหว่านล้อมรัสเซียให้พยายามมากขึ้นเพื่อหยุดความขัดแย้งนาน 5 ปีของซีเรีย
ซีเรียตกอยู่ในภาวะของสิ่งที่เคร์รีเรียกว่าเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และมีประชาชนหลบหนีออกไปจากประเทศแล้วกว่า 4.8 ล้านคน
เดิมทีสหรัฐฯ เป็นเจ้าบ้านที่ใจกว้างที่สุดในโลกสำหรับผู้ลี้ภัยแต่กลับถูกวิจารณ์ว่าเคลื่อนไหวช้าเกินไปในการตอบสนองต่อวิกฤตซีเรีย
ตัวเต็งผู้สมัครประธานาธิบดีฝั่งรีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาแผนการของโอบามาหลายครั้งว่าทำให้ชาวซีเรียหลายพันคนไหลหลั่งเข้ามายังสหรัฐฯโดยไม่ผ่านการตรวจสอบรักษาความปลอดภัย
แต่ชาวซีเรีย 10,000 คนที่จะถูกรับเข้ามาก่อนวันที่ 30 กันยายนนี้ถูกคัดเลือกในค่ายของยูเอ็นว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น แม่หม้าย ผู้สูงอายุ และผู้พิการ และได้รับการคัดกรองโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
