รอยเตอร์ - ซาอุดีอาระเบียเตือนสหรัฐฯ ว่าร่างกฎหมายของสหรัฐฯ ที่จะให้ริยาดรับผิดชอบต่อบทบาทใดๆ เกี่ยวกับเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2011 จะกัดกร่อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกในอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียระบุในวันจันทร์ (2 พ.ค.)
อาเดล อัล-จูเบียร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในเจนีวา หลังจากพูดคุยกับนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่พุ่งเป้าที่ไปวิกฤตซีเรีย ปฏิเสธว่าริยาดไม่เคยขู่ถอนการลงทุนจากพันธมิตรเก่าแก่อย่างอเมริกา
หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่ารัฐบาลริยาดขู่ขายสินทรัพย์ในอเมริกาสูงสุด 750,000 ล้านดอลลาร์ หากว่าสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายที่จะถอนเอกสิทธิ์คุ้มครองรัฐบาลต่างชาติในกรณีที่เป็นผลมาจากการโจมตีก่อการร้ายที่เข่นฆ่าชาวอเมริกาบนแผ่นดินสหรัฐฯ
“เราบอกว่ากฎหมายลักษณะนี้จะกัดกร่อนความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน แต่จากนั้นก็พากันไปพูดว่า พระเจ้า ซาอุดีอาระเบียกำลังข่มขู่เรา มันน่าหัวเราะสิ้นดี” จูเบียร์กล่าว “เราไม่ใช้นโยบายทางการพลังงานและทางเศรษฐกิจเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง ยามที่เราลงทุนเราก็ลงทุนในฐานะนักลงทุน ยามที่เราขายน้ำมัน เราก็ขายในฐานะผู้ค้า”
นายจูเบียร์ยังพูดถึงผลกระทบของร่างกฎหมายดังกล่าวต่อนโยบายด้านการลงทุนของซาอุดีอาระเบีย ต่อไปอีกว่า “ที่ผมบอกมันเป็นแค่การเตือน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีคนกำลังพูดว่าเราข่มขู่ เราบอกว่ากฎหมายนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสั่นคลอน มันไม่ใช่แค่กับซาอุดีอาระเบีย แต่กับทุกคน”
นิวยอร์กไทม์ส อ้างเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอเมริกาและผู้ช่วยสมาชิกสภาคองเกรส เผยว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ลงมือล็อบบี้คองเกรสไม่ให้ผ่านร่างกฎหมายนี้ ซึ่งผ่านความเห็นชอบในขั้นคณะกรรมาธิการยุติธรรมของวุฒิสภาไปแล้วเมื่อเดือนมกราคม
“ข้อเท็จจริงคือพวกเขากำลังถอดหลักความคุ้มกันอำนาจอธิปไตย ซึ่งจะเปลี่ยนกฎหมายระหว่างประเทศของโลกเป็นแค่กฎป่า” จูเบียร์กล่าว “นั่นคือเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลของคัดค้าน และทำไมทุกประเทศทั่วโลกถึงคัดค้าน และกลับมีคนมาบอกว่าซาอุดีอาระเบียกำลังข่มขู่สหรัฐฯ ว่าจะถอนการลงทุน มันไร้สาระสิ้นดี”
