xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” เชื่อ ส.ว.สกัดนายกฯ จาก ส.ส.เจอปัญหาแน่ ปัดจับมือ พท.ถ้ายังคงจุดยืนเดิม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
หัวหน้าประชาธิปัตย์ บอกเร็วเกินไปที่จะพูดนายกฯ คนนอก ยังไม่รู้ผลเลือกตั้งเลย ชี้ในอดีตก็เคยมีพรรคได้เสียงเกินร้อยละ 40 เชื่อหากเจอวุฒิสภาสกัดเป็นปัญหาแน่ โบ้ยไปถามตอนเลือกตั้งจะจับมือกับเพื่อไทยหรือไม่ บอกยังไม่รู้ ปชป.อาจถูกเซตซีโร่ด้วยก็ได้ แต่ถ้าแดงยังจุดยืนเดิมไม่เอาแน่ แนะแต่ละพรรคพูดวิสัยทัศน์ให้ชัดก่อน ชี้ใช้ ม.44 ยุบสภาก็ปกติ แต่คาดคงต้องฟังเสียงสังคม

วันนี้ (4 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีคนนอกว่า เร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะเรายังไม่ทราบเลยว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เพราะยังไม่เคยทดลองใช้ระบบการเลือกตั้งแบบบัตรเดียว และในอดีตก็เคยมีพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมากในสภา เด็ดขาดเกินร้อยละ 40 มาแล้ว ฉะนั้นการที่บอกว่าไม่มีใครได้เกินร้อยละ 50 นั้น เป็นการพูดเร็วเกินไป หรือหากไม่มีพรรคใดได้ถึง 250 เสียง แล้ววุฒิสภาพยายามสกัดกั้นตนเชื่อว่าจะเป็นปัญหาทางการเมืองแน่นอน เพราะได้เสียงจากประชาชน เกินครึ่ง แล้วแต่ถูกสกัดไม่ให้เป็นรัฐบาล หรือเป็นนายกฯ แล้วพรรคนั้นไม่ยอมไปร่วมรัฐบาลด้วย รัฐบาลที่มาแทนจะอยู่ได้ลำบาก

“หรือหากไม่มีพรรคไหนได้เกินครึ่งก็ไม่ได้มีสูตรว่าจะต้อง 2 พรรคใหญ่จับมือแล้วเกินครึ่ง 2 พรรคใหญ่ไม่จับมือกันก็ได้ อาจจะมีพรรคใหญ่ บวกกับพรรคอื่นๆ แล้วเกินครึ่ง แต่หากมีพรรคใหญ่ได้เกิน 250 ถามว่า วุฒิสมาชิกจะยังไม่ให้เป็นรัฐบาลจะเป็นไปได้มั้ย เราก็ไม่รู้ จึงเป็นการพูดที่เร็วเกินไป เพราะยังมีหลายปัจจัยที่ชี้ว่ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เมื่อสมมติเอาเองว่า 2 พรรคใหญ่ คือประชาธิปัตย์ กับเพื่อไทย จะต้องจับมือ หรือไม่จับมือกันเท่านั้น แล้วคนนอก ก็รู้สึกมีอยู่คนเดียวที่พูดกันอยู่ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ (จันทร์โอชา) เป็นการวิเคราะห์ที่เร็วเกินไป” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

เมื่อถามว่า โอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามตอนเลือกตั้ง เพราะขณะนี้ตนไม่รู้ว่า พรรคเพื่อไทยจะมีหรือไม่ หรือพรรคประชาธิปัตย์อาจจะถูกเซตซีโร่ก็ได้ และไม่รู้ว่าบุคลากร นโยบายต่างๆ เป็นอย่างไร และตนพูดชัดเจนแล้วว่า หากพรรคเพื่อไทยยังคงจุดยืนเดิม เป็นเครื่องมือทางการเมือง ให้กับครอบครัว หรือบุคคล แล้วก็ยังมีปัญหาเรื่องนิรโทษกรรม การคอร์รัปชัน หรือการดำเนินงานทางการเมืองที่เอาความรุนแรงมาใช้ ผ่านกลไกมวลชน ประชาธิปัตย์ไม่ร่วมด้วยแน่นอน หรือแม้จะแยกไปตั้งพรรคใหม่เพื่อมาขอร่วมด้วยก็ตาม

“วันนี้แทนที่จะถามประชาธิปัตย์ต้องกลับไปถามคนอื่น เพราะเรามีจุดยืน นโยบายชัดเจนที่สุดในขณะนี้ และผมพูดตลอดว่า นี่คือนักการเมืองอาชีพ ต้องพูดอย่างนี้ แต่พรรคอื่นขณะนี้ผมยังไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร ส่วนพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมกับพรรคไหนผมไม่ทราบ ไม่รู้ว่าเป็นไปได้หรือไม่ได้ ดีที่สุดวันนี้ เราควรเอาเรื่องของวิสัยทัศน์ ความตั้งใจของแต่ละพรรคมาพูดให้ชัดว่า แต่ละคนต้องการให้ประเทศไทยเดินไปทางไหน ไม่ใช่หมกหมุ่นกับว่าใครจะเป็นรัฐบาล ใครจะเป็นนายกฯ โดยไม่ดูว่าทิศทางของประเทศจะเดินไปอย่างไร เพราะฉะนั้น กว่าจะถึงวันเลือกตั้ง สังคมไทยต้องค้นหาว่าแต่ละพรรคการเมืองคิดอย่างไร เพื่อไทยจะมีสาขา ไม่มีสาขาพรรคขนาดกลางคิดอย่างไร เมื่อตัวเลขออกมาถึงจะเป็นตัวบ่งบอก ไม่เช่นนั้นแล้ว ถ้าคิดแต่ว่าจะตกลงอะไรกันอย่างไรก็ได้ ขอให้ตัวเลขถึง การเมืองจะถอยหลังมาก เท่ากับว่าประชาชน ไม่มีส่วนร่วม และ สรุปแล้วก็คือนักการเมือง อะไรก็ได้ขอให้เป็นรัฐบาล” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีการยุบสภาหากเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ว่า หากเลือกนายกฯ ไม่ได้ รัฐบาลชุดนี้ก็จะรักษาการต่อไปเรื่อยๆ และมีอำนาจ ม.44 ที่จะทำงานต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ แต่ก็คงจะขลุกขลัก เพราะอาศัยกลไกตามสภาตามปกติคงยาก ซึ่งเท่ากับเป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสียงในสภาเลย ยกเว้นวุฒิสภา ส่วนโอกาสที่รัฐบาลจะใช้ ม.44 ยุบสภา ให้มีเลือกตั้งกันใหม่นั้นในอังกฤษ และสเปนก็เคยมี ถือเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ตนยังชื่อว่าต่อให้เขาจะมาจากการแต่งตั้ง แต่ถ้ากระแสสังคมบอกว่าต้องไปทางใดทางหนึ่งอย่างชัดเจนพอสมควร เขาก็ต้องฟัง แต่หากกระแสสังคมไม่ชัดเจน คือแล้วแต่นักการเมืองจะมาตกลงกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น