อดีตแกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. คาด เลือกตั้งไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก มองเหลือ 2 ทางเลือก รบ.ที่ได้จากนายกฯคนนอก และ 2 พรรคใหญ่จับมือกัน แย้มแบบหลังสะท้อนเจตนารมณ์ ปชช. อาจเอื้อปรองดอง ปัดหนุนไม่หนุน แต่เหมือนเป็นหมากที่ถูกบังคับ อยู่ที่ 2 พรรคทบทวนหรือไม่
วันนี้ (2 ต.ค.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต สปช. และ แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. เปิดเผยว่า คาดการณ์ได้ว่า การเลือกตั้งทั่วไปปลายปีหน้า จะไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาดพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องคำถามพ่วง และจากตัวบทรัฐธรรมนูญที่ให้ ส.ส. กับ ส.ว. ร่วมกันให้ความเห็นชอบในการตั้งนายกรัฐมนตรี ทำให้การตั้งรัฐบาลมีทางเลือกจำกัด 1. ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยหรือ พรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมกับพรรคขนาดกลาง และพรรคขนาดเล็ก เพื่อตั้งรัฐบาล โดยอาศัยเสียง ส.ว. สนับสนุนในการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรี หลังจากได้นายกฯแล้ว ส.ว. ไม่ได้มาค้ำจุน หรือคัดค้านอะไรได้ ภารกิจในการผ่านกฎหมาย ผ่าน พ.ร.บ. งบประมาณ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสภาผู้แทนราษฎร จำกัดวงอยู่เพียง ส.ส. 500 คน เท่านั้น ส.ว. ไม่ได้มาร่วมสังฆกรรมอะไรด้วย ทางเลือกนี้ทำให้ได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย หรืออาจเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จะง่อนแง่น และบริหารงานยาก
2. หากประชาธิปัตย์ และ เพื่อไทย สองพรรคใหญ่แข็งขืนต่อกัน ตกลงกันไม่ได้ในชั้นสภาผู้แทนราษฎร แปลว่า ต้องเปิดทางไปสู่ก๊อกสอง กล่าวคือ ส.ส. บวก ส.ว. จำนวนเกินครึ่งของสมาชิกรัฐสภา คือ มากกว่า 375 คน เข้าชื่อขอเปิดไฟเขียวให้แก่นายกฯคนนอก และในการประชุมเพื่อการนี้ จะต้องได้เสียงสองในสาม คือ เกินกว่า 500 เสียง นายกฯคนนอก จึงเข้ามาได้
3. พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเพื่อไทย จะทำอย่างไร ในเมื่อการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย อยู่ได้สัปดาห์เดียวแล้วถูกคว่ำ เป็นวิธีที่ไม่มีใครปรารถนา ทางเลือกจึงเหลือเพียงสองทาง ระหว่างการมีรัฐบาลที่ได้นายกฯจากคนนอก กับอีกทางคือ สองพรรคนี้จับมือกันตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ ความจริงการจัดตั้งรัฐบาลสอง หรือ สามพรรคใหญ่ เคยเกิดขึ้นแล้วในเยอรมนี อิตาลี และ ออสเตรีย ภาษาอังกฤษเรียกว่า Grand Coalition อันที่จริงการมีรัฐบาลเช่นนี้ก็สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชนว่าต้องการให้พรรคที่ได้คะแนนสูงสุดมาบริหารบ้านเมือง และจะว่ากันไปแล้ว รัฐบาลแบบนี้อาจมีคุณูปการต่อบรรยากาศการปรองดองหรือไม่
“ผมไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ไม่ได้ชี้ว่าดีหรือไม่ดี แต่ดูเหมือนจะเป็นหมากที่บังคับตาเดิน พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเพื่อไทย ที่เสียงแข็งในวันนี้ ถึงวันนั้นอาจต้องทบทวนก็ได้” นายประสาร กล่าว