“บิ๊กตู่” เผย ใช้โอกาสถกสหประชาชาติเชื่อมกลุ่ม จี 77 กับ จี 20 สู่เวทีโลก ระบุ เอกวาดอร์ รับ ปธ. ต่อจากไทย ยันต่างชาติเริ่มจำได้ ไม่มีใครถามเมื่อไหร่จะสละอำนาจ ไม่มีใครเดินหนี เซ็งไม่มีใครช่วยอธิบาย ชูยักษ์ธุรกิจอเมริกามาพบ จ่อลงทุนยางเพิ่ม
วันนี้ (27 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่า ตอนที่ตนไม่อยู่ งานก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เพราะได้มอบหมายรัฐมนตรีดูแลไว้หมดแล้ว แต่วันนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสิ่งที่เราไปแสดงออก คือ บทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก ในเรื่องการดูแลผู้ลี้ภัย ผู้อพยพแบบไม่ปกติ แก้ปัญหาประมง การค้ามนุษย์ เราได้ใช้โอกาสนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างกลุ่ม จี 77 กับ จี 20 ไปสู่เวทีโลก และการเชื่อมต่อเศรษฐกิจพอเพียง ก็มีหลายประเทศนำไปใช้เป็นแนวทางการพัฒนา สอดคล้องให้กับประเทศนั้น ๆ เรื่องการประชุมประเทศ จี 77 ผมได้เป็นประธานการประชุม มีการสรุปผลการดำเนินการ และเลือกประธานคนต่อไปในปีหน้า คือ จากประเทศเอกวาดอร์ ซึ่งจะเริ่มในเดือนมกราคมเป็นต้นไป
เมื่อถามว่า ท่าทีของ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำในหลายประเทศเปลี่ยนไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ได้บอกไปแล้วทุกประเทศก็มาคุยกับผมทุกคน เจอหน้าก็ทักทายกัน เพราะเขาเริ่มจำผมได้ เขาไม่ได้ถามว่าเมื่อไหร่จะสละอำนาจ ซึ่งผมได้ประกาศไปบนเวทีแล้วว่าโรดแมปของผมเลือกตั้งปี 2560 จะเอาอะไรอีก แล้ววันที่ผมทำมันเสียหายใครไหม ไปเสียหายทางการค้าเขาหรือเปล่า ถ้าเสียแล้วเขาจะมาลงทุนกับผมทำไม”
เมื่อถามว่า ท่าทีเขายอมรับผู้นำไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เขาไม่ยอมรับผมหรอก เขาเป็นประเทศประชาธิปไตย เขาจะพูดอย่างอื่นได้อย่างไร พูดไม่ได้ เขาต้องพูดอย่างเดียว คือ เรื่องเลือกตั้ง แล้วทำไมไม่ช่วยกันอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ช่วยผมสิ ผมทำเพื่อตัวเองหรอ ผมทำเพื่อทุกคนไม่ใช่หรือ แต่ไม่มีใครช่วยผมเลยหรืออย่างไร หรือจะปล่อยให้มันเน่าไปเรื่อยก็ตามใจ”
เมื่อถามว่า เขาไม่ได้มองว่าเราประหลาด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้ประหลาด ใครจะประหลาด เขาก็คุยกับผมทุกคน เจอหน้าเขาก็มาทักผมก่อน จำได้เจอกันหลายครั้งแล้ว ไม่มีใครเดินหนีสักคน ผมก็สบตาทุกคน ไม่ได้ก้มหน้าหนีไปไหน ผมก็ทักทุกคน ไปเหนื่อยนะ แต่ไม่ได้ไปเพื่อให้เขาต้องยอมรับว่ามาถูกต้อง ผมยอมรับในที่มาของผม แต่ผมทำเพื่อประเทศไทย ให้โอกาสประเทศไทยบ้าง ผมพูดอย่างนี้กับทุกคน แต่คนไทยไม่ค่อยให้โอกาสผม แต่ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็รับได้ มีก็ส่วนน้อย
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่คอลัมนิสต์ยกให้เป็นเผด็จการคลาสสิก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เผด็จการคือการปฏิวัติรัฐประหารเข้ามา ผู้รู้ตัวผม แล้วผมไม่เคยคิดถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับผมเลย เพราะผมมองประเทศชาติเป็นหลัก เพราะชีวิตผมมันตายไปตั้งแต่วันแรกที่เป็นทหารแล้ว เสี่ยงชีวิตมาเท่าไหร่ แค่วันนี้ก็อยากทำให้ประเทศชาติอย่างเต็มภาคภูมิของผม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ต่างประเทศให้การยอมรับมากขึ้น ตนไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง โดยบอกกับทุกประเทศอย่ามากังวลที่เข้ามาแบบนี้ ตนเข้าใจกระบวนการยุติธรรมของโลกดี และพยายามเดินหน้าไปสู่ตรงนั้น และวันนี้ตนได้ทำอะไรให้พวกท่านเสียหายหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่มี แต่เขาอยากให้เราไปสู่ประชาธิปไตยสากลให้มากขึ้นกว่าเดิม แล้วที่ไปอเมริกามีบริษัทขนาดใหญ่มาพบ มีหลายอย่างที่เขาจะมาลงทุนในไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะการสร้างโรงงานยาง และยางเครื่องบิน ยางรถขนาดใหญ่ ทำให้การใช้ยางในประเทศมากขึ้น อยากถามว่า ทำไมก่อนหน้าไม่มาลงทุน เป็นเพราะนโยบายรัฐบาลชัดเจนหรือเปล่า วันนี้หลายอย่างเขาเห็นศักยภาพเรา อะไรที่ทำได้ในช่วงนี้ เขาก็อยากทำให้มากที่สุด โลกต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน บางอย่างปิดกั้นตัวเองไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจเลวร้ายตามกันไปหมด แต่การเมืองก็ว่ากันไป คนละเรื่องกัน ตนคิดว่าเขาไว้ใจเราพอสมควร