xs
xsm
sm
md
lg

“วรงค์” ซัด พท.บิดเบือนหากินกับคนที่ไม่เข้าใจ ป้อง รบ.คดีข้าวทำตามกระบวนการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
อดีต ส.ส.พิษณุโลก ซัด พท.ออกแถลงการณ์ค้านใช้ ม.44 คดีจำนำข้าว สะท้อนไม่ยอมรับผิด บิดเบือนให้ ปชช.เชื่อ หากินกับคนที่ไม่เข้าใจ ป้อง รบ.ทำตามกระบวนการศาล ไม่ได้รวบรัด ย้อนเป็นครั้งที่ รบ.ปล่อยให้มีการทุจริตมโหฬาร เตือนก็ไม่ฟัง-เหลิงในอำนาจ ขอช่วยเรียกร้องให้เคารพข้อเท็จจริง เลิกโบ้ยแต่คนอื่น

วันนี้ (26 ก.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการจี้รัฐบาลทบทวนเรียกค่าเสียหายโครงการจำนำข้าว และขอให้ยกเลิกการใช้มาตรา 44 ว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยพยายามออกแถลงการณ์ช่วงนี้ล้วนเป็นการสะท้อนถึงการไม่ยอมรับผิด และไม่ยอมรับข้อเท็จจริง สังคมต้องไม่ปล่อยให้เขาสร้างกระแสบิดเบือนจนประชาชนเชื่อ โดยประการแรกพรรคเพื่อไทยพยายามโยงว่าคดีอาญาในศาลฎีกายังไม่ตัดสิน ทำไมเร่งรีบ ไม่ปล่อยให้เป็นกระบวนการตามกฎหมายปกติ ตนขอเรียนว่า พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นกฎหมายปกติที่มีขั้นตอน ที่สำคัญแค่มีการลงนามคำสั่งทางปกครองหรือเตือน ก็ไม่ใช่ว่าจะไปยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์และนายบุญทรงแล้วจบกัน เพราะเมื่อเขาอุทธรณ์ร้องศาลปกครองก็ต้องสู้กันอีกสองศาล ก็ยังคาดเดาไม่ได้ว่าจะจบเมื่อไหร่ และผลจะเป็นอย่างไร ไม่ได้รวดเร็ว รวบรัดตามที่พรรคเพื่อไทยอ้าง เรื่องจึงเป็นเพียงแค่เริ่มต้นเพื่อเข้าสู่กระบวนการศาลเท่านั้น

นพ.วรงค์กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 การที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่า ถือเป็นครั้งแรกของประเทศที่นำเรื่องกำไรขาดทุนเรียกค่าเสียหายจากผู้นำรัฐบาล เรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าการดำเนินนโยบายครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ปล่อยให้มีการทุจริตครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งที่หลายฝ่ายเตือนแล้วก็ไม่สนใจเพราะเหลิงในอำนาจ ตนเชื่อว่ารัฐบาลใดๆ ดำเนินนโยบาย และปล่อยให้เกิดการทุจริต ผลประโยชน์ไม่ถึงประชาชน เงินส่วนที่ไม่ถึงมือประชาชนนั้นถือเป็นความเสียหายที่ต้องรับผิดชอบ ประการที่ 3 ทางพรรคเพื่อไทยอ้างว่าการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวจะถือเป็นการละเมิดหรือไม่ก็ยังไม่มีความชัดเจน การยึด อายัด ถือเป็นการกระทำที่กระทบต่อสิทธิของบุคคล จึงไม่ควรที่จะต้องเร่งรีบ รวบรัด เรื่องนี้อย่างที่ตนบอกคือยังไม่จบ ยังต้องผ่านขั้นตอนศาล กระบวนการเพิ่งจะเริ่มต้นที่ศาลปกครอง อีกนานกว่าจะจบ แต่พรรคเพื่อไทยก็จะบิดเบือนว่าจะยึด อายัด เร่งรีบ รวบรัดอยู่ ประการที่ 4 ทางพรรคเพื่อไทยก็กล่าวหาว่าเร่งรัดเพื่อให้มีการเรียกค่าเสียหายให้จบทันอายุของรัฐบาลนี้ เรื่องนี้ยิ่งตอกย้ำว่าบิดเบือนในเนื้อหาซ้ำๆ

นพ.วรงค์กล่าวต่อไปว่า ประการที่ 5 พรรคเพื่อไทยอ้างถึงคำสั่งตามมาตรา 44 ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อให้บรรลุเจตนาของผู้นำเท่านั้น ก็เป็นการบิดเบือน ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องทั้งหมดต้องจบลงที่ศาล และสามารถใช้สิทธิทางศาลได้เต็มที่ อีกทั้งมาตรา 44 ไม่ได้มีผลต่อกระบวนการใดๆ ของคดี จึงเท่ากับว่าพรรคเพื่อไทยพยายามเอาเรื่องนี้ หลอกหากินกับประชาชนที่ไม่เข้าใจ เหมือนที่เคยหลอกหากินกับผู้เสียชีวิตที่ได้ผลมาแล้ว และประการสุดท้าย พรรคเพื่อไทยอ้างถึงอำนาจตามมาตรา 44 ได้ให้อำนาจกรมบังคับคดียึดอายัดทรัพย์บุคคลเป็นการเฉพาะ ไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญนั้นก็เป็นการบิดเบือนซ้ำอีก เพราะรู้ทั้งรู้ว่าการใช้มาตรา 44 ก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่แทนกันเท่านั้น และการยึด อายัดทรัพย์ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นทันที เพราะต้องจบที่ศาล

“เราจึงต้องช่วยกันเรียกร้องพรรคเพื่อไทยให้เคารพข้อเท็จจริง การจะโต้แย้งหรือกล่าวอ้างใดๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่สร้างบิดเบือนจนเคยชิน ที่สำคัญเมื่อกระทำผิดต้องมีสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำ ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น ให้เหมือนนานาประเทศประชาธิปไตยทั้งหลายที่กระทำผิดไปแล้วเขามีสำนึกของความรับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศชาติ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประชาธิปไตย” นพ.วรงค์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น