xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.มันมือต้อน “เพื่อแม้ว” แต่คดี “บิ๊ก คสช.” ต้องบริสุทธิ์ผุดผ่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


ป้อมพระสุเมรุ



หลังจากเงียบเป็นเป่าสาก จนคนแทบจะลืมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปแล้ว นับตั้งแต่ “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เข้ารับหน้าที่กุมบังเหียนมาร่วมปี ที่สุดตอนนี้สปอตไลต์ต้องหันกลับไปจับจ้อง เพราะคดีทางการเมืองกำลังทยอยออกมา ราวกับเลือดไหลไม่หยุด

โดยเฉพาะคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับองคาพยพในพรรคเพื่อไทย ตอนนี้เรียงคิวกันโดนเชือดแบบต่อเนื่อง ย้อนตั้งแต่ นายประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย กรณีแทรกแซงองค์การตลาด ที่ ป.ป.ช. ชี้มูล และส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เชือดนิ่ม ๆ จนปิดเทอมทางการเมืองไปแล้ว 5 ปี

ต่อเนื่องมาถึงคิว “บิ๊กโอ๋” พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม ที่ก็ถูก ป.ป.ช. ฟัน และส่งให้ สนช. ลงมือสับคอเช่นเดียวกัน จากกรณีแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม จนหมดสิทธิ์เล่นการเมืองไปอีกคนเป็นเวลา 5 ปี ชนิดเรียบร้อยโรงเรียน “ท็อปบูต” จนเจ้าตัวออกมาแฉว่า มี “ใบสั่ง”

หรือในกรณีที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดอาญา “ขุนค้อน” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้มูลความผิดอาญา และถอดถอนกับ อุดมเดช รัตนเสถียร อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กรณีสลับร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. และ นริศร ทองธิราช ผู้ที่ปรากฏในคลิปว่า ทำหน้าที่เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน 
          
      โดยในราย “อุดมเดช” และ “นริศร” นอกจากต้องไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ยังต้องไปเอาคอขึ้นเขียงที่ สนช. ในสำนวนถอดถอนอีกด้วย บอกได้คำเดียว รอดยาก !

เมื่อเกิดปรากฏการณ์ “กรรมสนองโกง” งานนี้เลยทำเอาลิ่วล้อของ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีชนักปักหลัง หลอนไปตาม ๆ กัน ว่า จะถูกหามเป็นรายต่อไป เห็นได้จากกรณีที่ “เดอะเงาะ” วรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และเพื่อน ส.ส. รวม 40 ชีวิต ต้องออกมาร้องแรกแหกกระเชอ ใส่ ป.ป.ช. กรณีถูกตั้งอนุกรรมการไตส่วน เพราะกลัวจะมีชะตากรรมเดียวกัน

มันก็ควรเสียวสันหลังอยู่หรอก เพราะคำร้องดังกล่าว “บวร ยสินทร” ร้องต่อ ป.ป.ช. ให้เอาผิด “เดอะเงาะ” กับพวก ที่ร่วมกันเสนอ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมสุดซอย ตั้งแต่ปี 2556 หรือตั้งแต่ตอนม็อบ กปปส. ซึ่งยังไมมีการทำรัฐประหารด้วยซ้ำ แต่จู่ ๆ การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กลับหยิบเรื่องดังกล่าวมาพิจารณา และมีมติแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน แถมให้ขาโหดอย่าง “สุภา ปิยะจิตติ” เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน

งานนี้มันก็มีอาการสะดุ้งกันบ้าง เพราะคดีนักการเมืองที่อยู่ในความรับผิดชอบของ “สุภา” ส่วนใหญ่ผู้ถูกกล่าวหา คอพับกันหมด อย่างในราย “ประชา” และ “บิ๊กโอ๋” นั่นก็น้ำมือ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลังหญิงคนนี้ ทั้งนั้น

ที่สำคัญ เลย “สุภา” ได้รับการถ่ายยีนมาจากขาโหดคนเก่าอย่าง “วิชา มหาคุณ” อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ผู้กำราบ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีละเลยไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จนก่อให้เกิดความเสียหายมาแล้ว การทำงานนี่แทบจะลอกแบบกันมาเป๊ะ ๆ

แถมยังเป็นคนที่ค่อนข้าง “เอกเทศ” พอสมควร ในสำนักงานป.ป.ช. ไม่ค่อยคล้อยตาม “บิ๊กกุ้ย” และกรรมการ ป.ป.ช. คนอื่น ๆ มากนัก และถ้านักการเมืองคนไหนอยากจะโกง แต่ไม่โดน “สุภา” เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนคงยาก เพราะตอนแบ่งงานป.ป.ช. “บิ๊กกุ้ย” ได้มอบหมายให้เจ้าตัวดูแลสำนักคดีนักการเมือง

ดังนั้น คดีเก่า ๆ ของนักการเมือง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ตกค้างอยู่สมัย “วิชา” จะถูกถ่ายโอนมาอยู่กับ “สุภา” เกือบทั้งหมด เมื่อแนวทางของคนเก่าและคนใหม่คล้ายคลึงกัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม “เดอะเงาะ” และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถึงค้านกันหัวชนฝา 
               
นั่นเพราะรู้ว่า สุดท้ายชะตากรรมของพวกเขาที่เคยทำระยำตำบอนเอาไว้ ตอนเสนอ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมสุดซอย นั้น โอกาสรอดริบหรี่เหลือเกิน

อีกทั้งก่อนหน้านี้ เคยมีประกาศิตของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในช่วงก่อนการทำประชามติ 7 สิงหาคม เอาไว้ว่า หลังจากนี้ คดีนักการเมืองจะทยอยออกมา ให้ระมัดระวังตัวกันไว้แล้วกัน

การที่ ป.ป.ช. ทยอยสรุปคดีนักการเมืองช่วงนี้ มันจึงสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้นำเคยพูดไว้ เหตุนี้นักการเมืองพรรคเพื่อไทยทุกคนที่มีชนักปักหลังจึงเหมือนยืนอยู่บน “เส้นด้าย” คล้ายจะโดนเล่นงาน

แม้แต่ “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ก่อนหน้านี้ถือเป็น “ขาเปรี้ยว” ประจำพรรคเพื่อไทย ที่ชอบสร้างความปั่นป่วน คสช. ในหลายรูปแบบ ล่าสุด ยังเจอแจ็กพอตเข้าให้ เมื่อ “ณรงค์ รัฐอมฤต” กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะอนุกรรมการไต่สวน ออกมาเปิดเผยว่า คดีทุจริตการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร กำลังจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ วันนี้ ทำเอา เสี่ยไก่ อยู่ไม่เป็นสุข รีบแจ้นไปคัดค้าน

พร้อมกับตั้งคำถามว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. ไม่เคยเรียกไปชี้แจง ไม่เคยเรียกพยานหลักฐาน คดีผ่านมา 10 ปี จู่ ๆ ใกล้ได้ข้อสรุปเอาซะอย่างงั้น มันก็เหมือนจงใจจะเก็บ “เสี่ยไก่” อีกราย ในข้อหาสร้างความหมั่นไส้ 
              
  นอกจากคดีใน ป.ป.ช. ในองค์กรยุติธรรมอื่น ๆ ก็น่าสนใจ หลังศาลนัดพิจารณาคำร้องขอถอนประกันตัว “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) คดีก่อการร้าย ในวันที่ 3 ตุลาคม ที่เจ้าตัวออกมาดักคอเหมือนรู้ชะตากรรมว่า จะได้นอนคุกอีกครั้ง

ดังนั้น ก็ไม่ผิดที่ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่มีแผล จะเต้นเป็นเจ้าเข้า ซึ่งเชื่อขนมรอกินได้เลย ป.ป.ช. ไม่หยุดแน่ เพราะเหมือนมีสัญญาณส่งซิกมา

กระนั้น แม้ดูเหมือนผลงาน ป.ป.ช. จะเริ่มกลับมา จนแฟนคลับชักกลับมาออกปากชม แต่เสียงก่นด่า ก็ยังมีเยอะอยู่ดี โดยเฉพาะในยุค “บิ๊กกุ้ย” เพราะยังมีคำถามเรื่องของ “บรรทัดฐาน” อยู่ว่า ตกลงแล้วมีความเป็นอิสระมากน้อยเพียงใด เนื่องจากคดีในฟากฝั่งทหาร ออกมาค้านสายตาคนดู

ไม่ว่าจะเป็นกรณีก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่กลายเป็นว่า การก่อสร้างทุกอย่างถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายทุกกระเบียดนิ้ว จน “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม น้องรัก “บิ๊กป้อม” กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ ไร้มลทิน แต่ ป.ป.ช. กลับไม่ให้เหตุผลเลยว่า ถูกต้องอย่างไร คำถามที่คาใจก่อนหน้านี้ ยังไม่มีคำตอบ

แล้วมารอบนี้มีคดีของ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้ามาอีก 2 คดี ไม่ว่าจะเป็นกรณีมีการนำชื่อภรรยา “ผ่องพรรณ จันทร์โอชา” ไปตั้งเป็นชื่อ “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา”จนถูกวิจารณ์ขรม ถึงความเหมาะสม และกรณีพบว่า “ลูกชายคนโต” มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ที่ได้รับงานในกองทัพภาคที่ 3 ซึ่ง “บิ๊กติ๊ก” เคยคุมอยู่
    
“บิ๊กกุ้ย” ขึงขังว่า จะตรวจสอบตามกฎหมาย แต่เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ จบเหมือน “บิ๊กโด่ง” อีกแหง ๆ 
    
  คิดว่ากล้าหรือ ?
กำลังโหลดความคิดเห็น