อดีต ส.ส.ปชป.ซัด สนช.บางคนแทรกแซงดัน “สรศักดิ์” ข้ามหัวอาวุโสนั่งเลขาฯ สภาคนใหม่ เหตุเอื้อประโยชน์ จี้ กก.สรรหายึดระบบคุณธรรม อย่าให้เอื้อทุจริตแบบยุค “สุวิจักขณ์” ชำแหละประวัติเอี่ยวโครงการอื้อฉาวเพียบ แฉพิรุธการสรรหา “พรเพชร” แหวกธรรมเนียมตั้ง สนช.ร่วมโหวตด้วย ชี้อย่าทำให้เจตนาปฏิรูปนายกฯ มัวหมอง ทำระบบ ขรก.เสื่อมเต็มที่
วันนี้ (22 ก.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกสรรบุคคลคำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า เป็นที่แน่ชัดว่ามีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางคนกำลังแทรกแซงผลักดันให้นายสรศักดิ์ เพียรเวช รองเลขาธิการสภาฯ มาเป็นเลขาธิการสภาฯ คนใหม่เนื่องจากทำงานให้ตนได้เป็นอย่างดี เป็นที่พึงพอใจของกลุ่มอำนาจและธุรกิจใน สนช.เป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะอาวุโสน้อยกว่านายคุณาวุฒิ ตันตระกูล และนายสมชาติ ธรรมศิริ ที่นายสรศักดิ์ซึ่งเป็นประธานสอบสวนให้ปลดออกและไล่ออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งคณะกรรมการเลือกสรรควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ยึดหลักคุณธรรม ความรู้ความสามารถและอาวุโส เพื่อให้เห็นว่ายังมีระบบคุณธรรมและธรรมาภิบาลในการแต่งตั้ง ถ้าแต่งตั้งแบบประเภทเข้ามาสนองผลประโยชน์ของตนเองในการธุรกิจการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ 12,000 ล้านบาท หรือหลิ่วตาในโครงการไอทีของรัฐสภาใหม่อีก 3,000 ล้านบาทก็จะเป็นปัญหาต่อเนื่องในอนาคตอย่างแน่นอน ประเทศชาติต้องการข้าราชการใจซื่อมือสะอาดเป็นผู้นำองค์กร โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐสภา ถ้าได้ข้าราชการประเภทสนองตอบต่อฝ่ายการเมืองก็จะเป็นปัญหาเรื้อรังเหมือนสมัยนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการที่ผ่านมา
“นายสรศักดิ์คนนี้มิใช่หรือที่เป็นผู้อำนวยการสำนักกฎหมายสมัยนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภาฯ แล้วเกิดการทุจริตงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ กว่า 300 ล้านบาท ผลสอบการทุจริตผ่านมา 2 ปียังไม่เสร็จสักเรื่อง และยังเป็นคนเสนอให้ลดเหล็กในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ใช่หรือไม่ ใครได้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช้เหล็กตามสเปก และนายสรศักดิ์ใช่หรือไม่ที่สรุปผลการสอบทุจริตโครงการจัดซื้อนาฬิกา 250 เรือน วงเงิน 15 ล้านบาทว่าไม่ใช่การฮั้ว แล้วทุกวันนี้ทำไมต้องสั่งเก็บทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่ในห้องประธานสภาฯ หากนายพรเพชร วิชิตชลชัย สั่งย้ายนายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภาฯ เพราะควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้า ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกันนี้นายพรเพชรต้องสั่งย้ายนายสรศักดิ์ด้วย เพราะเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างอาคารรัฐสภาปัจจุบันล่าช้ามาก แถมยังจะต่อขยายเวลาให้บริษัทเอกชนอีก 500 วัน”
นายวัชระกล่าวว่า ตนทราบว่าการเลือกสรรเลขาธิการสภาฯ ครั้งนี้มีความแปลกประหลาดกว่าทุกสมัย เพราะนายพรเพชรแต่งตั้งนางสุวิมล ภูมิสิงหราช สมาชิก สนช.เข้าไปโหวตด้วย ซึ่งธรรมเนียมปฏิบัติเป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาและรองประธานเท่านั้น เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตามกฎหมาย แต่การส่งนางสุวิมลเข้ามาโหวตด้วยถือว่าเป็นการผิดธรรมเนียมของรัฐสภา และนางสุวิมลนั้นเป็น สนช.ที่เดินตามหลังนายชัชวาลย์ อภิบาลศรี สนช.ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนายพรเพชรนั่นเอง
“เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรีต้องการปฏิรูปประเทศ เปิดโอกาสให้ข้าราชการได้เติบโตตามระบบคุณธรรม การเล่นเส้นเล่นสายและล็อกสเปกก็ต้องหมดไปจากระบบข้าราชการไทยได้แล้ว และ สนช.ซึ่งทำหน้าที่แทน ส.ส.และ ส.ว.ก็ไม่ควรก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการประจำ อย่าทำให้เจตนารมณ์การปฏิรูปประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมัวหมอง และทำให้แม่น้ำ 5 สายต้องพลอยเสื่อมเสียไปด้วยเพราะตำแหน่งเลขาธิการสภาฯนี้ และถ้าการแต่งตั้งที่รัฐสภามีปัญหาเหมือนในกระทรวงมหาดไทย ก็แสดงว่าระบบข้าราชการมันเสื่อมเต็มทีแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเปิดโอกาสให้ข้าราชการที่ดีมีคุณธรรมได้เติบโตตามสายงาน ไม่ใช่ต้องใช้ตัวช่วยเหมือนทุกวันนี้ อย่าได้เกรงใจใคร เพราะคนแก่ไม่ได้น่าเชื่อถือเหมือนกันทุกคน” นายวัชระกล่าว