“ประยุทธ์” เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน เพื่อหารือทวิภาคีกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ณ นครนิวยอร์ก
วันนี้ (20 ก.ย. 2559) เวลา 11.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ และหารือทวิภาคีกับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 อิบน์ อัล-ฮุสเซน (His Majesty King Abdullah II Ibn Al-Hussein) สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน ระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความซาบซึ้งและเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน เป็นครั้งที่ 3 ความสัมพันธ์ทวิภาคี ไทยและจอร์แดนจะครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 โดยจะจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในการเปิดสถานเอกอัครราชทูตจอร์แดนประจําประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวชื่นชมบทบาทของจอร์แดนในการรักษาสันติภาพภายในประเทศ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตนและผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย พร้อมขอบคุณจอร์แดนที่เข้าใจและสนับสนุนคณะผู้แทนไทยในการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC Summit) ครั้งที่ 13 ณ นครอิสตันบูล ทั้งนี้ ไทยอยู่ระหว่างการขยายความร่วมมือกับ OIC ในด้านอื่นๆ เช่น ความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนา ความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะอาหารฮาลาล การท่องเที่ยว ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลจอร์แดนที่ช่วยเหลือดูแลนักศึกษาไทยประมาณ 650 คนเป็นอย่างดี
โอกาสนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน ได้กล่าวถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีความชื่นชมประเทศไทยมาโดยตลอด และยังได้ติดตามความคืบหน้าความร่วมมือระหว่างไทยและจอร์แดน ทั้งด้านความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมความมั่นคง ความร่วมมือด้านฝนหลวง และด้านการศึกษา โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือร่วมกันอย่างต่อเนื่องต่อไป