xs
xsm
sm
md
lg

“วิทยา” รับชงให้ มท.จัดเลือกตั้ง “วันชัย” ยันให้ คสช.แค่หนุนไม่ใช่คุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวิทยา แก้วภราดัย สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (แฟ้มภาพ)
กมธ.ปฏิรูปการเมือง สปท.ดาหน้าโต้นักการเมือง “วันชัย” ยันข้อเสนอกฎหมายลูก 4 ฉบับมาจากมติที่ประชุมจริง ให้ คสช.สนับสนุนงาน กกต.ไม่ใช่คุมเลือกตั้ง แต่ป้องกันครหาเลือกตั้งล้มเหลว ให้เป็นต้นแบบ ด้านอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์รับชงเองให้มหาดไทยจัดโหวต อ้าง กกต.ไม่สามารถปราบซื้อเสียงได้ ยันกระทรวงวันนี้ไม่เหมือนเมื่อ 30 ปีก่อน ขณะที่ “เสรี” จ่อคุยอีกรอบพรุ่งนี้ ยันไม่ได้เขียนเอาใจผู้มีอำนาจ ชูถ้าทำสำเร็จพรรคจะเป็นของประชาชน

วันนี้ (5 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. กล่าวระหว่างการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่ากรณีข่าวที่ สปท.ด้านการเมืองถูกบรรดานักการเมืองออกมาโจมตีเกี่ยวกับการเสนอกฎหมายลูก 4 ฉบับ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.การจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ทาง สปท.ด้านการเมืองเสนอให้กระทรวงมหาดไทยมาช่วยจัดการเลือกตั้ง และให้ คสช.ควบคุมการจัดเลือกตั้งในปี 2560 จนทำให้ตนและนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ด้านการเมือง สปท. โดนหางเลขไปด้วยว่าเป็นข้อเสนอที่สอพลอขอตำแหน่งกับเผด็จการ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปัญญาอ่อนและตกยุคสมัย รวมทั้งกล่าวหาว่าเป็นไอ้ห้อยไอ้โหน ตนเรียนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของ สปท.โดยตรง แต่เป็นเรื่องในการพิจารณาของ สปท.ด้านการเมืองมีประเด็นการพิจารณาเรื่องดังกล่าวจริงและผ่านมติที่ประชุม กมธ.แล้ว และจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม สปท.ในเร็วๆ นี้ แต่เนื้อหาไม่ได้เป็นไปตามที่นำมาบิดเบี้ยวกัน

“เป้าหมายสำคัญของ กมธ.ที่ได้ประชุมและมีความเห็นร่วมกันแล้วว่า บ้านเมืองเรามีปัญหาทุกวันนี้เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม นำมาซึ่งความแตกแยกไม่สมานฉันท์เราเห็นว่าหัวใจในการปฏิรูปทางการเมืองที่เด็ดขาดคือจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์เที่ยงธรรมให้ได้ และจะต้องสอดรับกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งตัวกฎหมายจะเด็ดขาดอย่างไรก็ตาม ถ้าการเลือกตั้งไม่ปฏิบัติตามกฎหมายลูกที่เขียนไว้ก็เปล่าประโยชน์ พวกเราจึงทำข้อเสนอไปยัง คสช.ให้มาช่วยสนับสนุนส่งเสริมการทำงานของ กกต. ไม่ใช่มาควบคุมการเลือกตั้ง แต่เพื่อป้องกันข้อครหาว่าการเลือกตั้งล้มเหลว และเพื่อให้การเลือกตั้งปี 2560 เป็นต้นแบบการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรม และเพื่อไม่ปล่อยให้กกต.เหมือนเสือที่ไม่มีใครกลัวกลายเป็นเสือกระดาษ ไหนๆ ก็ปฏิวัติทั้งทีพวกเราจึงเห็นว่า คสช.ต้องมามีส่วนและทำให้โมเดลการเลือกตั้งที่สุจริตปรากฏ ส่วนเรื่องที่เสนอให้กระทรวงมหาดไทยเข้ามาจัดการเลือกตั้งก็เป็นข้อเสนอของนายวิทยา แก้วภราดัย สปท.ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.หลายสมัยเป็นคนเสนอและสมาชิกก็เห็นด้วย ยันยืนว่าไม่ใช่การห้อยโหน คสช. แต่ต้องการให้งานออกมาดี” นายวันชัยกล่าว

ขณะที่นายวิทยากล่าวว่า ขอยอมรับสารภาพว่าเป็นคนเสนอทั้ง 2 เรื่อง คือ ให้กระทรวงมหาดไทยจัดการเลือกตั้ง และให้ คสช.ช่วยควบคุมการเลือกตั้ง เพราะเห็นว่า กกต.มีภารกิจมากเกินไป 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่สามารถปราบปรามการซื้อเสียงได้ ทาง กมธ.จึงเสนอแบ่งเบาภาระ เป็นไปได้หรือไม่ที่การเลือกตั้งมีคนเป็นล้านๆ คนจะใช้หน่วยงานอื่นไปทำงานได้หรือไม่ และการเลือกตั้ง ส.ส.ควรเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้กระทรวงมหาดไทยไปจัดการเลือกตั้ง และให้ กกต.กำกับอีกครั้งหนึ่ง เพราะกระทรวงมหาดไทยในวันนี้แตกต่างจากเมื่อ 30 ปีที่แล้วอย่างมหาศาล หน่วยงานในกระทรวงถูกกระจายออกไปหมดถือว่างานเบาที่สุด คนเป็นผู้ว่าฯ จะสั่งใครแทบไม่ได้แล้ว และข้อเสนอเหล่านี้ก็เป็นแค่ตุ๊กตาตัวอย่างเท่านั้น ที่ผ่านมาทาง กมธ.เสนอให้มีการปรับปรุง กกต.มาโดยตลอด แต่ก็ไม่ผ่านการพิจารณาจาก กรธ. เราไม่มีทางอื่นจึงต้องมาล็อกในกฎหมายลูก

ด้านนายเสรีกล่าวเสริมว่า รายงานของ กมธ.ด้านการเมือง สปท.ผ่านการประชุมของ กมธ.โดยมีการประชุมอย่างเป็นขั้นตอนมาตลอดแต่ละเรื่อง ทาง กมธ.ได้ให้อนุ กมธ.ไปดำเนินงาน และต้องนำมารายงานความคืบหน้าเมื่อสุดท้ายได้รายงานมาแล้ว ก็จะถามสมาชิกว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขอะไรหรือไม่ และถามว่าทุกคนเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยจึงได้จัดทำเป็นรายงานให้สื่อมวลชน เรื่องที่ออกมาเป็นข่าวก็ถือเป็นมติของ กมธ.จะไม่มีเรื่องใดที่ไม่ใช่มติออกมา ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่ทาง กมธ.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมในวันที่ 6 ก.ย. เพื่อให้เกิดความสบายใจเพราะเราต้องรับฟังเสียงข้างนอกและดูเหตุผลว่าถูกต้องมากน้อยเพียงใด หากดีเราก็จะปรับแก้ และข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ก็ต้องยอมรับว่าข้อเสนอที่ฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย เราก็ต้องพูดกันด้วยเหตุผลว่าไม่ได้เขียนมาเพื่อเอาใจ คสช.เพราะ คสช.ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย เรื่องที่นักการเมืองพูดถึงพวกตนด้วยถ้อยคำรุนแรงนั้น เป็นเพียงแค่การพูดเพื่อสร้างความสนใจเท่านั้น แต่เนื้อหาที่ สปท.การเมืองไม่ได้ทำอย่างที่นักการเมืองเก่าๆ พูด และเป็นแนวทางที่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทย

“นักการเมืองบางคนที่ดูหมิ่นดูแคลนคนอื่น แต่นักการเมืองเหล่านี้ ในอนาคตเชื่อว่าประชาชนไม่เอาเป็นการฆ่าตัวเขาเองมากกว่า และหากเราปฏิรูปสำเร็จเชื่อว่าพรรคการเมืองก็จะเป็นของประชาชน เพราะประชาชนอยากให้บ้านเมืองดีขึ้น รักษาผลประโยชน์ของประชาชนไม่ทุจริตคอร์รัปชัน” นายเสรีกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น