xs
xsm
sm
md
lg

“วัชระ” จี้นายกฯ ปฏิรูป ตร. ไม่สำเร็จ ปชป.จ่อดันเป็นนโยบาย-ขอความเป็นธรรมอดีต ตชด.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
อดีต ส.ส.ปชป.ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” เร่งปฏิรูป ตร. แยกหน่วยงานไม่เกี่ยวข้องรักษาความสงบสังกัดหน่วยงานอื่นใน 1 ปี ใช้ ม.44 ให้อัยการคุมสอบคดีสำคัญ ชี้ รบ.นี้ทำไม่สำเร็จ ปชป.พร้อมประกาศแยกอำนาจสอบสวนเป็นนโยบายหลัก พร้อมขอความเป็นธรรมให้อดีด ตชด.ที่ถูก “บิ๊กโก” ไล่ออกราชการเมื่อ 19 ปีก่อนหลังมีข้อพิพาทกัน ขอนายกฯ รับกลับเข้ารับราชการ

วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่่อเวลา 10.00 น.ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือที่มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ร่วมลงชื่อด้วย 18 คน ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องให้เร่งปฏิรูปตำรวจ และให้แยกหน่วยงานตำรวจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยไปสังกัดหน่วยงานอื่นภายใน 1 ปี พร้อมขอใช้มาตรา 44 ให้อำนาจพนักงานอัยการควบคุมการสอบสวนคดีสำคัญ โดยมีนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน (สปอ.) รับเรื่องไว้เพื่อดำเนินการต่อไป

นายวัชระกล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญเรื่องการตรวจสอบถ่วงดุล และเป็นไปตามมติสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ขอเรียกร้องให้แยกหน่วยงานของตำรวจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อย ไปสังกัดหน่วยงานอื่นภายใน 1 ปี รวมถึงขอให้ใช้มาตรา 44 ให้อำนาจพนักงานอัยการควบคุมการสอบสวนคดีสำคัญ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในจังหวัดเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจังหวัด นอกจากนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการกระทรวงยุติธรรม เร่งปฏิรูประบบการสอบสวน ด้วยการออก พ.ร.บ.จัดตั้งสำนักงานสอบสวนคดีอาญาในสังกัดกระทรวงยุติธรรม คู่ขนานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยหากรัฐบาลนี้ทำไม่สำเร็จ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะประกาศนโยบายแยกอำนาจการสอบสวนเป็นนโยบายหลักในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

นอกจากนี้ นายวัชระกล่าวถึงกรณีที่นายคชพล ส่องแสง อดีตนายตำรวจสัญญาบัตร กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรงให้กลับมาเข้ารับราชการตามเดิม เนื่องจากนายคชพลได้เข้าร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก พล.ต.ท.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนขณะนั้น ให้ออกจากราชการอย่างไม่เป็นธรรม ตั้งแต่ที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2540 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 19 ปี และเคยได้ร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2557

“นายคชพลไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณาทางวินัยกรณีมีข้อพิพาทกับอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการข้าราชตำรวจ (ก.ตร.) ได้ลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงกรณียื่นฟ้อง พล.ต.ท.โกวิท ต่อมาศาลได้ยกฟ้องจึงถูกบทลงโทษทางวินัย ไล่ออกจากราชการตามมติ ก.ตร. แต่เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ตอบข้อหารือกรณีฟ้องผู้บังคับบัญชาว่าเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายไม่เป็นความผิด เว้นแต่จะเป็นความเท็จ แต่ ก.ตร.ลงโทษฐานฟ้อง พล.ต.ท.โกวิททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อันเป็นความผิดตามกฎ ก.พ.มาตรา 98 วรรค 2 เห็นว่าเป็นการลงโทษโดยไม่มีกฎหมายรองรับ และการกระทำไม่เป็นความผิดนั้น ผมจึงขอส่งเรื่องอดีตข้าราชการตำรวจผู้ระบุว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีให้ความเป็นธรรมต่อนายคชาพล ที่มีเวลากลับเข้ารับราชการเหลืออีกเพียงหนึ่งปีเท่านั้นก่อนจะเกษียณอายุ 60 ปีในปี 2560 นี้” นายวัชระกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น