xs
xsm
sm
md
lg

“วัชระ” จี้ นายกฯ-รมว.คลัง ปลดบอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ทั้งคณะ “สมคิด” ต้องร่วมรับผิดชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อดีต ส.ส. ปชป. เรียกร้องปลดบอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์พ้นทั้งคณะ ชี้ ปธ. ชิงลาออกคนเดียวไม่พอ กรณีปัญหาทุจริต ผิด พ.ร.บ. เอสเอ็มอีแบงก์ ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ อนุมัติปล่อยสินเชื่อรีไฟแนนซ์ มีส่วนได้เสียตั้ง กก. สอบ สรรหาบุคคลลักษณะต้องห้ามนั่ง กก.ผจก. เทียบคล้ายคดี “หมอเลี้ยบ” แต่งตั้งไม่ถูกต้องสร้างความเสียหาย จี้ นายกฯ - รมว.คลัง จัดการ บี้ “สมคิด” รับผิดชอบฐานเสนอชื่อ

วันนี้ (28 ส.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้คณะกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แห่งประเทศไทย หรือ เอสเอ็มอี แบงก์ พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ หลังจากที่ นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ได้ลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา จากกรณีปัญหาการทุจริต โดยเรื่องหนึ่งที่กระทำความผิด คือ การอนุมัติสินเชื่อโดยหละหลวมของบอร์ดให้กับ ห้าง หจก.โรงสีข้าวจงเจริญ วงเงิน 125 ล้านบาท ซึ่งรับรีไฟแนนซ์ลูกหนี้จากธนาคารอื่น ขณะที่ลูกหนี้หยุดกิจการแล้ว และมีปัญหาในการชำระหนี้กับธนาคารเดิม เมื่อเอสเอ็มอี แบงก์ รับรีไฟแนนซ์มา ได้รับการชำระหนี้เพียงงวดเดียว โดยการอนุมัติดังกล่าวยังขัดคำสั่งของ รมว.คลัง และ ซูเปอร์บอร์ด ที่ห้ามไม่ให้ปล่อยสินเชื่อในลักษณะรับรีไฟแนนซ์ลูกหนี้ที่มีปัญหาจากธนาคารอื่น และเน้นให้ปล่อยสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้น ตนจึงเห็นว่า การลาออกของนางสาลินีคนเดียวไม่เพียงพอ เนื่องจากเป็นการอนุมัติโดยบอร์ด เมื่อ นางสาลินี ลาออกแล้วบอร์ดทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีตา มพ.ร.บ. เอสเอ็มอีแบงก์

นอกจากนี้ บอร์ดชุดดังกล่าวยังมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีที่ตัวเองมีส่วนได้เสียซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ. เอสเอ็มอีแบงก์ มาตรา 20 ที่กำหนดว่า กรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสีย ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ในเรื่องซึ่งที่ประชุมพิจารณาให้แจ้งการมีส่วนได้เสียของตนให้คณะกรรมการทราบ และห้ามมิให้ผู้นั้นเข้าประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่บอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ ที่มีส่วนในการอนุมัติสินเชื่อที่มีปัญหาจนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำหนังสือให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กลับอยู่ร่วมในการพิจารณาตั้งคณะกรรมการตามคำสั่งของ ธปท. จึงมีความชัดเจนว่าเข้ามาข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ. เอสเอ็มอีแบงก์ ในมาตราดังกล่าว จนเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 17 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน และยังอาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 11 ของ พ.ร.บ. ความผิดของพนักงานในองค์การ หรือ หน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีโทษทางอาญาด้วย

นายวัชระ กล่าวต่อว่า ยังมีการกระทำความผิดในเรื่องการตั้งกรรมการสรรหากรรมการผู้จัดการที่ขาดคุณสมบัติ โดยมี 3 คน จาก 5 คน ประกอบด้วย นายเวทย์ นุชเจริญ มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานฯ เนื่องจากดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัท ศรีสวัสพาวเวอร์ 1979 จำกัด ซึ่งทำธุรกิจลักษณะเดียวกับเอสเอ็มอีแบงก์ และยังมีประโยชน์ได้เสียโดยบริษัทในเครือเป็นผู้ประมูลซื้อหนี้เอ็นพีแอล จากเอสเอ็มอีแบงก์หลายครั้ง นอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท ทิพยประกันภัย ซึ่งได้รับงานประกันอัคคีภัยของลูกหนี้เอสเอ็มอีแบงก์ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการอาสุโสธนาคารกรุงไทย ซึ่งทำธุรกรรมการเงินเช่นเดียวกับเอสเอ็มอีแบงก์ จึงถือเป็นนิติบุคคลที่มีประโยชน์ได้เสีย เกี่ยวข้องกับกิจการของเอสเอ็มอีแบงก์ 2. นางพรรณขนิตตา บุญครอง ประธานกรรมการสรรหา ซึ่งเป็นกรรมการ บ.ทิพยประกันภัย ด้วย และ 3. นางเสาวณีย์ กมลบุตร เคยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารทหารไทย จึงมีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับนายเวทย์ เมื่อกรรมการสรรหา 3 คน จาก5 คน มีลักษณะต้องห้าม จึงทำให้การสรรหาให้นายมงคล ลีลาธรรม เป็นกรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ คนปัจจุบันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้บอร์ดไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายทั้งขั้นตอนการสรรหาและแต่งตั้ง ทำให้บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งอาจเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ตามที่กฎหมายกำหนด

“กรณีนี้คล้ายคลึงกับคดีที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.คลัง ถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพาษาจำคุก 1 ปี แต่ให้รอลงอาญา จากการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของแบงก์ชาติไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะมีการยกเลิกไปก่อนได้รับการแต่งตั้งแต่ยังถูกตัดสินว่ามีความผิด ดังนั้น ในกรณีนี้เมื่อการแต่งตั้งไม่ถูกต้อง และผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งมาแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค. 59 จึงถือว่าเป็นกรณีที่สร้างความเสียหายมากกว่า ดังนั้น จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ซึ่งกำกับดูแลเอสเอ็มดีแบงก์ ดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว และขอให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในฐานะที่เสนอชื่อนางสาลินี เป็นประธานบอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ รวมถึงขอให้นางสาลินีลาออกจากตำแหน่ง ผอ.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจมาตรา 44 แต่งตั้งด้วย เพราะตำแหน่งนี้ต้องเป็นข้าราชการเท่านั้น แต่ขณะนี้นางสาลินีไม่ได้เป็นข้าราชการแล้ว” นายวัชระ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น