นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) หรือ ธพว. เปิดเผยถึงกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ มีการยื่นหนังสือให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบการทุจริตใน เอสเอ็มอีแบงก์ ใน 3 ประเด็นคือ การอนุมัติขายหนี้ที่ไม่ก่อรายได้ (เอ็นพีแอล) จำนวนกว่า 1 หมื่นล้านบาทอาจผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ, การอนุมัติสินเชื่อให้โรงสีข้าวจงเจริญ 125 ล้านบาท และการใช้เอกสารปลอมเป็นหลักฐานการยื่นกู้และเบิกเงินกู้ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร ที่ถูกตรวจพบโดยผู้ตรวจสอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ขณะนี้ธนาคารได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเรื่องการขายหนี้เอ็นพีแอลให้บริษัทเอกชน ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นการขายในราคาที่ต่ำกว่ามูลหนี้มาก โดยรายละเอียดทั้งหมดยังไม่สามารถชี้แจงได้ เพราะบางกรณีเป็นการขอสินเชื่อตั้งแต่ปี 2552-2553 ซึ่งต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง และเอกสารที่มีจำนวนมากเข้ามาสอบข้อเท็จจริง
รายงานข่าวจากเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า การประมูลขายหนี้เป็นไปด้วยความเร่งรีบ เพราะผู้บริหารต้องการเร่งสร้างผลงานว่าสามารถปรับลดหนี้เอ็นพีแอลลงได้ ทำให้การทำงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ขาดความรอบครอบ และรูปแบบการประมูลใช้วิธีกาประมูลเป็นกองจึงไม่สามารถระบุเจาะจงราคาหลักประกันที่ประมูลไปได้ว่าลูกหนี้รายไหน และราคาเท่าไร เพราะเป็นการประมูลแบบคละรวมทรัพย์ จึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง หรือเป็นเพราะความรีบร้อนของผู้บริหารที่ต้องการสร้างผลงานกันแน่
รายงานข่าวจากเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า การประมูลขายหนี้เป็นไปด้วยความเร่งรีบ เพราะผู้บริหารต้องการเร่งสร้างผลงานว่าสามารถปรับลดหนี้เอ็นพีแอลลงได้ ทำให้การทำงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ขาดความรอบครอบ และรูปแบบการประมูลใช้วิธีกาประมูลเป็นกองจึงไม่สามารถระบุเจาะจงราคาหลักประกันที่ประมูลไปได้ว่าลูกหนี้รายไหน และราคาเท่าไร เพราะเป็นการประมูลแบบคละรวมทรัพย์ จึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง หรือเป็นเพราะความรีบร้อนของผู้บริหารที่ต้องการสร้างผลงานกันแน่