xs
xsm
sm
md
lg

อานิสงส์! ม.44 กู้ชีพ “รถดับเพลิงโคตรโง่” กทม.-กห.ชงเข้าข่ายยุทธภัณฑ์ ไม่จ่าย 800 ล้านค่าจอดตากแดด จ่อฟันแก๊งยืดเวลาภาษีรถหรู ให้โอกาสเก็บ 2 ปีแล้วยึด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บิ๊กตู่” ออกม.44 ฟัน “ผู้นำเข้ารถหรู” ใช้ช่องว่างกฎหมายยืดเวลาเสียภาษี จ่อยึดรถหรูค้างท่าเรือนับพันคัน ทำประเทศเสียรายได้ แต่ให้โอกาสเก็บได้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่นําเข้าเก็บครั้งแรก ส่วน “รถดับเพลิง กทม.โคตรโง่” กว่า 300 คัน โชคดีได้อานิสงส์ กทม.-กห.ชงเข้าข่ายยุทธภัณฑ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัย ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าท่าเรือกว่า 800 ล้านบาท ส่อได้รับมาซ่อมแซมก่อนนำไปใช้

วันนี้ (25 ส.ค.) ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 51/2559 เรื่องการดําเนินการกับของที่เก็บในเขตปลอดอากรและเขตประกอบการเสรี และของที่ใช้เป็นยุทธภัณฑ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัย โดยที่ปัจจุบันได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีรถยนต์และของที่จัดเก็บในเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ตลอดจนเขตประกอบการเสรีตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยฝากหรือเก็บอยู่เป็นเวลานานหลายปีโดยเปล่าประโยชน์ มิได้มีการนํารถยนต์และของนั้นออกจากเขตพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากกฎหมายทั้งสองฉบับมิได้กําหนดระยะเวลาไว้ว่าผู้นําของเข้าจะต้องดําเนินการให้มีการนําของออกจากเขตพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาเท่าใด ซึ่งการที่รัฐต้องจัดเก็บรถยนต์และของนั้นไว้นานปีโดยไม่มีกําหนดเวลา เป็นเหตุให้เกิดภาระในการจัดหาสถานที่เพื่อการจัดเก็บและภาระด้านค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บรักษา ทั้งรถยนต์และของนั้นก็มิได้ผ่านกระบวนการหรือพิธีการในการตรวจปล่อยของออกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร รัฐจึงขาดรายได้จากการจัดเก็บภาษีอากรจากรถยนต์หรือของนั้นในขณะที่รถยนต์และของที่จัดเก็บก็เสื่อมสภาพ เสื่อมราคาและเสื่อมประโยชน์ไปเรื่อยๆ อันส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณแผ่นดินและระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์บางประเภทที่ทางราชการนําเข้ามาเพื่อประโยชน์สาธารณะแต่ต้องเก็บรักษาไว้เพราะมีคดีจนบัดนี้คดีสิ้นสุดลงแล้วก็ยังไม่สามารถนํารถยนต์ดังกล่าวออกมาใช้งานตามความประสงค์ของทางราชการได้ ในขณะที่รถยนต์เหล่านั้นเสื่อมสภาพไม่พร้อมจะใช้งานลงเรื่อยๆ รัฐเองก็เสียค่าใช้จ่ายในการฝากหรือเก็บรักษานับพันล้านบาท หากทิ้งไว้โดยไม่นํามาซ่อมเพื่อใช้งานก็จะเสียประโยชน์ เสียงบประมาณหลายพันล้านบาท และยังต้องเสียงบประมาณเพิ่มในการจัดหาใหม่มาทดแทน การทิ้งไว้จึงกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ประโยชน์สาธารณะและราชการแผ่นดิน ในการมีพาหนะเพื่อบรรเทาสาธารณภัยที่ควรนํามาซ่อมเพื่อใช้ในราชการบรรเทาสาธารณภัยและราชการอื่นในฐานะเป็นยุทธภัณฑ์ ดังนั้น หากได้มีการดําเนินการเพื่อนํารถยนต์หรือของที่จัดเก็บอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าวออกมาจะเป็นการลดภาระในด้านงบประมาณหลายพันล้านบาททางหนึ่ง และก่อให้เกิดรายได้แก่รัฐด้านภาษีอากรอย่างมากอีกทางหนึ่ง อีกทั้งรถยนต์บางประเภทที่จัดเก็บอยู่ยังสามารถนํามาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการในการบริการสาธารณะหรือเพื่อป้องกันบรรเทาสาธารณภัยให้แก่ประชาชนได้อีกด้วย

“อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในคําสั่งนี้“เขตปลอดอากร” หมายความว่า เขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร “เขตประกอบการเสรี” หมายความว่า เขตประกอบการเสรีตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ข้อ ๒ ให้ผู้ที่นํารถยนต์ใหม่สําเร็จรูปตามประเภทพิกัดศุลกากร ๘๗๐๒ และ ๘๗๐๓เข้ามาในราชอาณาจักรและได้นําเข้าเก็บในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรี เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสองปีหรือรวมกันไม่น้อยกว่าสองปี แล้วแต่กรณี ก่อนวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ โดยเป็นของที่ยังไม่ได้ตรวจปล่อยออกไป นํารถยนต์ดังกล่าวออกจากเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรีเพื่อใช้หรือจําหน่ายในราชอาณาจักรโดยชําระภาษีอากรให้ถูกต้อง หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรทั้งนี้ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ

ในกรณีที่มิได้ดําเนินการตามวรรคหนึ่งภายในระยะเวลาที่กําหนด ให้ถือว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นของตกค้างตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร และให้อธิบดีกรมศุลกากรดําเนินการกับของตกค้างนั้นตามวิธีการที่กําหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยศุลกากร

ข้อ ๓ รถยนต์ใหม่สําเร็จรูปตามประเภทพิกัดศุลกากร ๘๗๐๒ และ ๘๗๐๓ ที่เก็บอยู่ในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรี นอกจากที่กําหนดไว้ในข้อ ๒ ก่อนวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับให้เก็บไว้ต่อไปได้ไม่เกินสองปีนับแต่วันที่นําเข้าเก็บครั้งแรก

ข้อ ๔ ของที่เก็บอยู่ในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรี นอกจากที่กําหนดไว้ในข้อ ๒และข้อ ๓ ก่อนวันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้เก็บของดังกล่าวไว้ต่อไปได้ไม่เกินสองปีนับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ

ข้อ ๕ ของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรและได้นําเข้าเก็บในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรีนับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้เก็บได้ไม่เกินสองปีนับแต่วันที่นําเข้าเก็บครั้งแรก

ข้อ ๖ กรณีมีการโอนย้ายของที่เก็บไว้ตามข้อ ๓ ข้อ ๔ หรือข้อ ๕ แล้วแต่กรณี ไปยังเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรีอื่น ให้นับระยะเวลาที่เก็บของดังกล่าวต่อเนื่องไปในกรณีจําเป็น อธิบดีกรมศุลกากรหรือผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยอาจขยายระยะเวลาตามข้อ ๓ ข้อ ๔ หรือข้อ ๕ แล้วแต่กรณี ได้ตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมศุลกากรประกาศกําหนด

ข้อ ๗ ของที่นําเข้าเก็บไว้ในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรีเกินกว่าระยะเวลาที่กําหนดในข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ หรือข้อ ๖ แล้วแต่กรณี ให้นําของนั้นออกจากเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรี เพื่อใช้หรือจําหน่ายในราชอาณาจักรโดยชําระภาษีอากรให้ถูกต้อง หรือส่งของนั้นออกไปนอกราชอาณาจักร หากมิได้ปฏิบัติเช่นว่านี้ให้ถือว่าสิทธิการยกเว้นภาษีอากรสําหรับของดังกล่าวสิ้นสุดลงและให้จัดเก็บภาษีอากรสําหรับของนั้นตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรนับแต่วันที่ครบกําหนดระยะเวลาโดยให้ถือว่าวันที่ครบกําหนดนั้นเป็นวันนําเข้าสําเร็จตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร

ข้อ ๘ มิให้นําข้อ ๔ และข้อ ๕ มาใช้บังคับกับของที่เป็นเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและเครื่องใช้ รวมทั้งส่วนประกอบของของดังกล่าวที่จําเป็นต้องใช้ในการประกอบอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรม ซึ่งได้นําเข้ามาในราชอาณาจักรและได้นําเข้าไปในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรี

ข้อ ๙ ให้รถดับเพลิง รถกู้ภัย รถไฟส่องสว่าง และรถบรรทุก ที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรในโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทํางาน สํานักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ทางท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙ จํานวน ๑๗๖ คัน และวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ จํานวน ๑๓๙ คัน เป็นยุทธภัณฑ์ที่ผู้นําของเข้ารับไว้ใช้ในราชการเพื่อการบรรเทาสาธารณภัยตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์ และให้ได้รับยกเว้นอากรตามประเภท ๑๓ ภาค ๔ ของที่ได้รับยกเว้นอากร แห่งพระราชกําหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐นับแต่วันที่นําของดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักร และให้ผู้นําของเข้าดําเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์และกฎหมายว่าด้วยศุลกากรต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของการดําเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์ ให้กรุงเทพมหานครทําความตกลงร่วมกับกระทรวงกลาโหมในการดําเนินการกับยุทธภัณฑ์ตามข้อนี้

ข้อ ๑๐ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ”

มีรายงานว่า ปัจจุบันมีรถหรูที่ค้างอยู่ท่าเรือจำนวนมาก 1,140 คันที่ยังไม่มีการนำออกไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจไม่ดีตั้งแต่ปีที่ผ่านมาทำให้รถยนต์หรูขายไม่ได้ ผู้นำเข้าจึงไม่นำรถออกหากยังขายไม่ได้ เพราะหากนำรถออกไปก่อนจะต้องเสียภาษีถึง 328% ของราคาซื้อขายจริงซึ่งเป็นเงินภาษีจำนวนมาก โดยรถยนต์หรูที่ค้างทั้งหมดมีทั้งของบริษัทเกรย์มาร์เกต และดีลเลอร์ขายรถยนต์

ขณะนี้ผู้ประกอบการ 50 ราย เป็นเจ้าของเขตปลอดอากรและคลังสินค้าทัณฑ์บน 70 แห่ง กฎหมายปัจจุบันไม่มีการกำหนดจำนวนสินค้าและระยะเวลาที่จะไว้สินค้าในเขตดังกล่าว โดยการแก้ไขกฎหมายของกรมศุลกากรที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา

ส่วนรถดับเพลิงของ กทม.นั้น กทม. กระทรวงมหาดไทย และตัวแทนจากกรมศุลกากรได้หารือในการ “ขอยกเว้นอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มรถและเรือดับเพลิง 315 คัน” เพื่อนำรถและเรือดับเพลิงออกมาซ่อมแซม โดย หาก กทม.จะขอยกเว้นอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น กทม.จะต้องทำให้เป็นยุทธภัณฑ์ซึ่งต้องให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้ดำเนินการ โดยจะประสานกับสำนักงานกฎหมายและคดี กทม. เพื่อทำหนังสือถึงกระทรวงกลาโหม ก่อนหน้านี้ กทม.ได้นำรถและเรือดับเพลิงซึ่งถูกส่งมาล็อตแรก และถูกนำมาเก็บไว้ที่โกดังสินค้าของบริษัท เทพยนต์แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ จ.นนทบุรี เพื่อนำมาลงทะเบียนเป็นครุภัณฑ์ 176 คัน ออกไปซ่อมแล้ว

ทั้งนี้ กทม.ได้เจรจาไกล่เกลี่ยกับเอกชนมาหลายรอบในเรื่องค่าเช่าที่จอดรถและเรือดับเพลิง ที่ภาคเอกชน ขอค่าเช่าท่าเรือแหลมฉบัง สูงถึง 809 ล้านบาท แม้ประเด็นค่าเช่าที่จอดรถอีกพื้นที่จะตกลงขอยกเว้นค่าแล้ว จึงนำมาสู่การออกมาตรา 44 ว่าเป็นยุทธภัณฑ์


กำลังโหลดความคิดเห็น