xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เปิดทางด่วนใหม่ ย้ำปัดสืบทอดอำนาจ ขอสื่อลดข่าวขัดแย้ง-ขู่ปรับบ้านมีผักตบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” เปิดทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ย้ำแก้จราจรติดขัด ขยายเส้นทางให้สังคมชนบทเป็นสังคมเมือง ไม่ให้แออัด บ่นคนในชาติมัวแต่ทะเลาะกัน ปัดสืบทอดอำนาจแต่ใครเข้ามาต้องยึดตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ขอสื่อลดเสนอข่าวขัดแย้งจะได้ไม่เสียอารมณ์ กร้าวพูดเพราะแล้วโกหกไม่ทำ ขู่บ้านใครมีผักตบเจอปรับ 100 บาท ติงต้องให้สั่งทุกเรื่อง จี้ช่วยกันเก็บ ขออย่าคิดแค่บ้านตัวเองสะอาด ข้างนอกช่างมัน

วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ กำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร โดยก่อนการเปิดพิธีนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการ โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้แนะนำโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เป็นโครงการต่อขยายทางพิเศษไปยังฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มต้นจากถนนกาญจนาภิเษกและสิ้นสุดที่ย่านบางซื่อ ใกล้สถานีขนส่งหมอชิต 2 และเชื่อมกับทางพิเศษสายศรีรัชเดิม และลงสู่ระดับดินที่ราชพฤกษ์ บางบำหรุ จรัญสนิทวงศ์ พระราม 6 และกำแพงเพชร 2 รวมระยะทาง 16.7 กิโลเมตร ได้เริ่มดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2554 มูลค่าโครงการทั้งสิ้น 32,816 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะมีปริมาณจราจรเฉลี่ยวันละ 45,000 เที่ยว และในปีแรกจะมีปริมาณจราจร 97,000 เที่ยวต่อวัน โดยมีอัตราค่าผ่านทางสำหรับรถยนต์แต่ละประเภท ประกอบด้วย รถ 4 ล้อ เก็บ 50 บาท รถ 6-10 ล้อ เก็บ 80 บาท รถมากกว่า 10 ล้อเก็บ 115 บาท ส่วนระบบการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางจะดำเนินการให้สามารถใช้การได้ภายในเดือนตุลาคม

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถือเป็นความสำเร็จใหม่ของกรุงเทพมหานครที่จะสร้างประเทศให้มีความเข้มแข็งเจริญในภายภาคหน้า ให้การสัญจรเป็นไปอย่างมีระบบ วันนี้ในกรุงเทพมหานครทางด่วนพิเศษกลายเป็นทางช้าพิเศษ เราจึงต้องแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดให้ได้ เพราะอนาคตจะมาคนเดินทางเข้ามาถึง 12 ล้านคนเนื่องจากเป็นแหล่งเศรษฐกิจ ซึ่งสร้างเท่าไหร่ก็ไม่พอจึงต้องขยายเมืองออกไปข้างนอก และการขยายในปัจจุบันยอมรับว่ามีความขัดแย้ง พร้อมเสนอแนะให้วางแผนเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมกับอาเซียน และขยายเส้นทางออกไปให้สังคมชนบทเป็นสังคมเมืองเหมือนกับประเทศเกาหลีใต้ ไม่ให้แออัด

“วันนี้นอกประเทศจัดอันดับให้ไทยเป็นอันดับหนึ่งในหลายเรื่อง แต่คนในประเทศกลับไม่มีความสุขเพราะมั่วแต่ทะเลาะกันในทุกๆ วันทุกๆ เรื่อง เราจึงต้องพัฒนาไปในสิ่งที่ต้องการ อย่าให้ใครมาปั่นหัว หลายอย่างที่ผ่านมาไม่อยากพูดถึงเพราะอาจจะมีเรื่องที่ผิดหรือถูก หรืออาจจะทำให้การพัฒนาช้าไปตามลำดับต้องขึ้นศาลบ้าง แต่ก็เพราะต้องการให้เกิดความยุติธรรมและความสงบสุขของทุกคน รัฐบาลโดนอยู่ทุกวันทำอะไรก็ผิดไปหมด ไม่เหมือนที่ผ่านมาทำถูกทุกเรื่องหรืออย่างไร วันนี้จึงต้องทำให้ถูกต้องเร็ว อย่าให้มีปัญหาในวันหน้าและมองปัญหาที่เหลืออยู่จัดการโครงการทุกอย่างให้อยู่ภายในงบประมาณปี 60 และแผนยุทธศาสตร์ชาติให้ได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยืนยันว่างบประมาณในการพัฒนาจะต้องบูรณาการกับทุกกระทรวง และให้อำนาจประชาชนในการทำงานในกรอบที่วางไว้ ไม่ได้สืบทอดอำนาจ ส่วนใครจะเข้ามาก็ต้องอยู่ในกรอบ และยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ส่วนการสร้างรถไฟความเร็วสูงนั้นขอฝากให้ช่วยกันคิดว่าหากไทยไม่สร้างแต่เพื่อนบ้านกำลังดำเนินการจะทำอย่างไร หรือจะให้นั่งรถไฟแบบเดิมไปยุโรปหรืออย่างไร ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าคิดแต่สร้างสะพานกับถนน เพราะไม่เช่นนั้นคนจะอยู่ใต้สะพานกันหมด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐสภาใหม่จะสร้างเสร็จชาตินี้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ มัวแต่ทะเลาะกันทุกเรื่อง วันนี้ตนก็เห็นนั่งกันสบาย ก็เป็นเรื่องของคุณท่าน วันหน้ารัฐบาลหน้าเข้ามาก็นั่งกันให้สบายกว่าเดิม ขอทำงานกันให้ครบเวลาก็แล้วกัน และยืนยันว่าปัญหาวันนี้ไม่โทษใครแต่โทษตนที่เข้ามาเอง วันนี้จะเป็นจะตายนักข่าวก็ยังถามแต่เรื่องสืบทอดอำนาจ อ่านหนังสือพิมพ์ไม่มีความสุข ต้องการให้บ้านเมืองเป็นแบบนั้นหรืออย่างไร แล้วจะหาความสงบสุขจากตรงไหน ตนก็ทำให้ไม่ได้ ถ้าหากเป็นแบบนี้ ขอร้องสื่อมวลชนลดการนำเสนอความขัดแย้งโต้กันไปมา จะได้ไม่เสียอารมณ์ ไม่ตอบคำถามซ้ำซาก เอาสมองไปคิดอย่างอื่น สำหรับตนไม่ใช่คนเก่งแต่ตนศึกษา

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พอ.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผู้สื่อข่าวมีอะไรจะถามหรือไม่ เห็นมีแต่ถามกันว่าวันนี้ตกลงอย่างไรดี จะมีการสืบทอดอำนาจหรือไม่ ถามกันอยู่แค่นี้ ทะเลาะกันอยู่แค่นี้ ที่เหลือจะเป็นจะตายเยอะแยะไปหมด วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับผมไม่มีความสุข ท่านต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างนั้นหรือ ความสงบสุขอยู่ตรงไหน ใครจะเป็นคนทำให้ท่าน ผมก็ทำให้ไม่ได้ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้อยู่ ทุกคนจะพูดกันไปมาอย่างนี้ไม่ได้ กระบวนการยุติธรรมก็ว่ากันมา อย่าทำผิดอีก ผมจะใช้อำนาจของผมก็ได้ แต่ผมไม่เคยใช้แบบนั้น ไม่เคยต้องสั่งว่าผิดถูกแล้วติดคุก เพราะมีทั้งศาลและกระบวนการยุติธรรม วันนี้ผมอยากให้สื่อมวลชนลดการนำเสนอข่าวในเชิงความขัดแย้ง ไม่ใช่ด่ากันไปมา แล้วกลับมาด่านายกฯ จะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์ และเอาสมองไปคิดอย่างอื่น ไม่ต้องตอบคำถามที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมมีเวลาอยู่ตามโรดแมป วันหน้าถ้ายังมีความทะเลาะเบาะแว้ง คนไทยทุกคนต้องรับผิดชอบ นายกฯคนนอก รัฐธรรมนูญ บ้ารึเปล่าไม่รู้ฟังเขาอยู่ได้ แต่ผมไม่บังอาจไปว่าคนดีๆทั้งหลาย ผมเป็นผู้ใหญ่ และเป็นทหารเลยขี้โมโหไปหน่อย แต่ผมไม่ใช่นักการเมืองอย่าหวังว่าผมจะพูดเพราะ พูดเพราะแล้วโกหกผมไม่ทำ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ว่าปัญหามีทุกวัน ขนาดปัญหาผักตบชวานายกรัฐมนตรียังต้องสั่งการเอง ถ้าทุกคนเห็นผักตบแล้วเก็บกันคนละต้น ปัญหานี้คงหมดไปนานแล้ว ก่อนหน้านี้มี พ.ร.บ.เกี่ยวกับผักตบชวาปี 2546 แต่ก็ยกเลิกไป วันนี้จะเอาหรือไม่ ถ้าใครปล่อยให้มีผักตบอยู่ในบ้านต้องถูกปรับต้นละ 100 บาท ทำไมต้องให้สั่งทุกเรื่อง เพราะท้ายที่สุดผักตบก็ไปไหลลงคลองทำให้น้ำไม่ระบาย แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร ใช้คนกี่คน ทหารไม่ต้องทำงานอื่นเลยหรือ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เองก็ทำงานไม่ไหว ปัญหาผักตบชวาต้องถูกกำจัดอย่างมีคุณภาพ ยั่งยืน เพราะ 1 ต้นสามารถกระจายเป็น 100 ต้นได้ภายใน 30 วัน โดยการแพร่เกสร การแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดคือต้องเก็บมันขึ้นมาคนละต้น

“บนถนนก็ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนไม่ทิ้งขยะ เราต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ เรากำลังมีคนเข้ามาเที่ยว 30 ล้านคนเพื่อการท่องเที่ยวด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเห็นถุงอยู่ 2-3 ถุง และเฝ้าดูว่าจะมีใครเก็บหรือไม่ ปรากฏว่ามีแต่คนเดินผ่าน ส่วนฝรั่งก็ถ่ายรูป คนไทยภูมิใจที่สร้างขยะได้ ส่วนฝรั่งภูมิใจที่ถ่ายรูปขยะได้ ต่างคนต่างภูมิใจ คนไทยต้องคิดใหม่ อย่าคิดแต่ว่าในรถและบ้านตัวเองต้องสะอาด แต่ข้างนอกช่างมัน มันไม่ใช่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
























กำลังโหลดความคิดเห็น