กลุ่มสมาพันธ์ชาวพุทธฯ ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” จี้กำหนดนโยบายแก้ปัญหาสร้างวัดเขตราชการ ป่าสงวนแบบสันติวิธี เหตุรื้อถอนไปหลายแห่งส่งผลกระทบจิตใจ แนะควรปฏิบัติด้วยจิตเมตตา ขับไล่พระพ้นวัดรู้สึกสะเทือนใจ ปัดเกี่ยวข้องธรรมกาย แค่ขอให้ดูแลภาพรวม
วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. กลุ่มสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย นำโดย ร.ท.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาคว่ามสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้พิจารณากำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาการสร้างวัดและที่พักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินราชการ โดยเฉพาะป่าสงวน โดยสันติวิธี และให้มีผลกระทบต่อพระสงฆ์และชุมชนน้อยที่สุด โดยตามที่ปรากฏเป็นข่าวและข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้เข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์และวัดหลายแห่ง อาทิ สำนักสงฆ์เขาบัวน้อย จ.กาญจนบุรี ที่พักสงฆ์แสงประทีป จ.บุรีรัมย์ วัดกัลยณมิตร กทม. วัดถ้ำเนรมิต จ.กาญจนบุรี ที่พักสงฆ์ป่าดงระแนง จ.กาฬสินธุ์ และที่อื่นอีกอีกกว่า 4,000 แห่ง ซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่างๆเช่นบุกรุกที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้ขออนุญาต ขุดบ่อบาดาลโดยไม่ได้ขออนุญาต ปักเสาไฟฟ้าโดยไม้ได้ขออนุญาต เป็นต้น โดยทำการรื้อถอนวัดไปแล้วหลายแห่ง จนทำให้พระสงฆ์และชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ
ทั้งนี้ วัดเป็นเป็นสมบัติสาธารณะ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เป็นศูนย์รวมจิตใจ มีความผูกพันกับชุมชน หากรัฐพบว่าการสร้างวัดไม่ถูกกฎหมาย ควรให้คำแนะนำหาทางออกโดยสันติวิธีร่วมกับชุมชน ควรปฏิบัติต่อวัดและภิกษุด้วยจิตเมตตาเคารพ ส่วนการขับไล่ รื้อถอน ทุบทิ้ง หรือดำเนินคดีตามกฎหมายอื่นนั้น ขอให้เป็นทางออกสุดท้าย
“อยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องเหล่านี้ในภาพรวมด้วย เพราะภาพที่ตนเห็นเจ้าหน้าที่ขับไล่พระสงฆ์ออกจากวัด ออกจากป่า ชาวบ้านเห็นแล้วก็รู้สึกสะเทือนใจ ผมในฐานะชาวพุทธจึงรวมรวมเครือข่ายเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เพื่อให้นายกฯ รับทราบ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่มีแนวทางดูแลพระสงฆ์และชาวบ้าน” ร.ท.บรรจบกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสวนป่าหิมวันต์ วัดพระธรรมกาย จ.เลย โดยสิ่งที่ตนเรียกร้องนั้น ต้องการให้นายกฯ ดูและในภาพรวม และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด
วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. กลุ่มสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย นำโดย ร.ท.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาคว่ามสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้พิจารณากำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาการสร้างวัดและที่พักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินราชการ โดยเฉพาะป่าสงวน โดยสันติวิธี และให้มีผลกระทบต่อพระสงฆ์และชุมชนน้อยที่สุด โดยตามที่ปรากฏเป็นข่าวและข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้เข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์และวัดหลายแห่ง อาทิ สำนักสงฆ์เขาบัวน้อย จ.กาญจนบุรี ที่พักสงฆ์แสงประทีป จ.บุรีรัมย์ วัดกัลยณมิตร กทม. วัดถ้ำเนรมิต จ.กาญจนบุรี ที่พักสงฆ์ป่าดงระแนง จ.กาฬสินธุ์ และที่อื่นอีกอีกกว่า 4,000 แห่ง ซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่างๆเช่นบุกรุกที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้ขออนุญาต ขุดบ่อบาดาลโดยไม่ได้ขออนุญาต ปักเสาไฟฟ้าโดยไม้ได้ขออนุญาต เป็นต้น โดยทำการรื้อถอนวัดไปแล้วหลายแห่ง จนทำให้พระสงฆ์และชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ
ทั้งนี้ วัดเป็นเป็นสมบัติสาธารณะ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เป็นศูนย์รวมจิตใจ มีความผูกพันกับชุมชน หากรัฐพบว่าการสร้างวัดไม่ถูกกฎหมาย ควรให้คำแนะนำหาทางออกโดยสันติวิธีร่วมกับชุมชน ควรปฏิบัติต่อวัดและภิกษุด้วยจิตเมตตาเคารพ ส่วนการขับไล่ รื้อถอน ทุบทิ้ง หรือดำเนินคดีตามกฎหมายอื่นนั้น ขอให้เป็นทางออกสุดท้าย
“อยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องเหล่านี้ในภาพรวมด้วย เพราะภาพที่ตนเห็นเจ้าหน้าที่ขับไล่พระสงฆ์ออกจากวัด ออกจากป่า ชาวบ้านเห็นแล้วก็รู้สึกสะเทือนใจ ผมในฐานะชาวพุทธจึงรวมรวมเครือข่ายเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เพื่อให้นายกฯ รับทราบ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่มีแนวทางดูแลพระสงฆ์และชาวบ้าน” ร.ท.บรรจบกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสวนป่าหิมวันต์ วัดพระธรรมกาย จ.เลย โดยสิ่งที่ตนเรียกร้องนั้น ต้องการให้นายกฯ ดูและในภาพรวม และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด