xs
xsm
sm
md
lg

ระเบิดตูมเครือข่ายทักษิณส่อตายหมู่ ปฏิเสธ-ไม่ปฏิเสธ ก็สาหัส !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



ก็ต้องบอกว่าแรงระเบิดแสวงเครื่องที่เกิดขึ้นใน 7 จังหวัดภาคใต้ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งนอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในที่เกิดเหตุจำนวนมากแล้ว ยังเกิดแรงสั่นสะเทือน และอาฟเตอร์ช็อกตามมากับกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม โดยเฉพาะในเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร แทบทั้งหมด ที่หมายถึงพรรคเพื่อไทย พวก นปช.

แน่นอนว่า หลังเกิดเหตุร้ายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระบุทำนองว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง “การเมือง” เกี่ยวข้องกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา และที่น่าแปลกเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ ทันทีที่เกิดระเบิด ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ชี้หน้าไปที่กลุ่มการเมืองทันทีแบบไม่ต้องนัดหมาย

ขณะเดียวกัน ยุคปัจจุบันที่การสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในโลกโซเชียลมีการวิเคราะห์วิจารณ์ส่งต่อกันอย่างแพร่หลาย มีการชี้ให้เห็นว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวใครได้ใครเสียประโยชน์จนเกิดแรงจูงใจในการลงมือ

อย่างไรก็ดี นาทีนี้ยังไม่มีการระบุออกมาจากปากของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝ่ายความมั่นคง ว่า กลุ่มไหนเป็นคนลงมือ มีแต่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ย้ำว่า จะต้องกระชากหน้ากาก “ไอ้โม่ง” ออกมาให้ได้ โดยแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าทีมคลี่คลายคดี ซึ่งก็เผยว่ามีความคืบหน้าไปมาก

แต่อีกด้านหนึ่งที่ดูเหมือนจะร้อนรนเป็นพิเศษ และมีอาการ “นั่งไม่ติด” ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายของเขา ที่ล่าสุด ต้องออกมาปฏิเสธเสียงดังเซ็งแซ่ ตั้งแต่ลูกพี่ยันลูกน้องปลายแถว โดย นพดล ปัทมะ คนใกล้ชิดบอกว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่โพสต์ข้อความในโลกโซเซียลกล่าวหาว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว โดยย้ำว่า นี่คือ การใส่ร้ายและหมิ่นประมาทบุคคลอื่นด้วยความเท็จ และในสถานการณ์ที่เปราะบาง บ้านเมืองต้องการความรักความสามัคคี การโหมกระพือความเท็จและวาทกรรมเพื่อสร้างความเกลียดชังเพื่อใส่ร้ายกันและกันนั้น สังคมไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

“ทุกคนที่เป็นอดีตนายกฯ รัก และห่วงใยประเทศ คงไม่มีใครทำชั่วเช่นนั้น” นั่นคือ คำพูดของ นพดล ปัทมะ คนใกล้ชิดของ ทักษิณ ชินวัตร ที่กล่าวเตือนเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน

ถัดมาก็มีการปฏิเสธออกมาจากบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค และคนอื่น ๆ ที่ยืนยันในทำนองเดียวกัน พร้อมทั้งเตือนฝ่ายตำรวจให้ค้นหาหลักฐานอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะพูดอะไรออกมา โดยเฉพาะคำพูดที่กล่าวถึง “การเมือง” รวมทั้งพวกแกนนำ นปช. ที่ไปไกลถึงขั้นท้าสาบานกันที่วัดพระแก้ว

แต่ที่น่าสังเกตก็คือ คนพวกนี้นอกจากปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องแล้ว ยังพยายามอ้างอิงการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ไทยแลนด์ ที่พยายามเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มการเมืองที่เสียประโยชน์จากการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

หากพิจารณาจากอาการที่เห็นก็พอเดาได้ว่า พวกเขา “สะเทือนหนัก” แสดงว่า ไม่ว่าในทางลับหรือเปิดเผย ถูกสังคมมองไปในทางลบ เหมือนกับโดนสะเก็ดระเบิดสะท้อนกลับอะไรประมาณนั้น ทั้งที่ในความจริงก็ต้องรอผลสรุปอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน แต่ไม่น่าเชื่อว่าพอสิ้นเสียงระเบิด คนก็ชี้หน้าไปที่กลุ่มการเมืองเสียแล้ว และเมื่อพวกเขาดาหน้าออกมาปฏิเสธ และขู่ฟ้อง นั่นก็หมายความว่า มีการกล่าวหาพาดพิงไปถึงแบบเต็ม ๆ

ขณะเดียวกัน หากมองอีกมุมหนึ่ง มันก็น่าเห็นใจ เพราะแม้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิด แต่ผลจากการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มันก็ทำให้ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายของเขากระอักเลือด มีผลต่ออนาคตทางการเมืองเข้าอย่างจัง ทั้งเนื้อหาที่ห้ามคนที่มีคุณสมบัติต้องห้ามจากคดีทุจริต ถูกยึดทรัพย์ เข้าสู่สนามการเมืองตลอดชีวิต จากบทเฉพาะกาล 5 ปี และผลจากคำถามพ่วงที่เปิดทางให้ ส.ว. แต่งตั้งร่วมโหวตนายกฯคนนอกได้ และยิ่งมาเจอกับ “ความเชื่อ” บางอย่างจากสังคมจากเหตุการณ์คราวนี้สมทบเข้าไปอีก ลองหลับตานึกภาพเอาก็แล้วกัน

ดังนั้น ถึงได้บอกว่า วานนี้ ไม่ว่าจะปฏิเสธ หรือไม่ปฏิเสธ มันก็สาหัสทั้งสิ้น !!
กำลังโหลดความคิดเห็น