คสช.ยันไร้ข่าวรุนแรงประชามติ ปล่อยกำลังพลฟรีโหวต แจงคุมตัว “ทัศนีย์” ดูแลดี

ทีมโฆษก คสช.แถลงพร้อมอำนวยความสะดวก ปชช.ลงประชามติ ย้ำยังไร้ภาพเหตุรุนแรงไม่มีข่าววุ่นวาย อยู่ในความสงบ ขอสอบก่อนเหตุพ่นสีสเปรย์ป่วน จชต. แจงดูแลภาพนอก ไม่เข้าไปในคูหา ลั่นไร้ใบสั่ง ปล่อยกำลังพลฟรีโหวต ยันคุมตัว “ทัศนีย์” ดูแลดีตามกฎหมาย

วันนี้ (1 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุมสำนักงานเลขาธิการ คสช.ที่มี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช.เป็นประธานการประชุม ว่าอีก 7 วันข้างหน้าจะมีวันสำคัญคือวันออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีการเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิออกมาใช้สิทธิลงประชามติ ตั้งแต่ 08.00-16.00 น. สำหรับการรักษาความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ต่างๆ เพื่อดำเนินงานต่างหน้าที่ให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งนี้ย้ำว่าตอนนี้ยังไม่มีภาพข่าวหรือเหตุการณ์ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น แต่อาจจะมีภาพการเคลื่อนไหวของผู้เห็นต่าง แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ถ้าดำเนินการเกินกรอบกฎหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทันที ทั้งนี้ขอย้ำว่าภาพรวมบ้านเมืองยังสงบเรียบร้อย

พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีการพ่นสีสเปรย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญนั้น เบื้องต้นต้องตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏว่าอะไรปรากฏอยู่บ้าง มีผู้เกี่ยวข้องอย่างไร ถ้าเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ประชามติ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดก็จะดำเนินการ ส่วนจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มการเมืองนั้น ทางเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการเคลื่อนไหวหลายกลุ่ม สำหรับกรณีที่มีการบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มการเมืองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ตนย้ำว่าสิ่งใดก็ตามที่ออกมาเป็นกระแสทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบว่าเป็นความเชื่อมโยง หรือเกี่ยวพันว่ามีเจตนาอะไร เข้าข่ายบิดเบือนกฎหมายหรือไม่

พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือแจ้งเตือนผู้ว่าราชการทั่วประเทศให้เฝ้าระวังช่วง 7 วันก่อนลงประชามติ ทางกระทรวงมหาดไทยมีศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยในแต่ละจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจจังหวัด และผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ร่วมกันประสานงานดูแลการลงประชามติในแต่ละพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ก็จะดูแลภาพรวมภายนอก โดยที่ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคูหาการลงประชามติ

เมื่อถามว่าที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งเตือนว่าอาจจะมีการก่อเหตุความวุ่นวาย พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า ในช่วงของทหารยังไม่รับแจ้งในเรื่องดังกล่าว เพราะทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนแผนรองรับกระบวนการใต้ดินเป็นอย่างไรนั้น พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า ในด้านการข่าว การติดตามและการประเมินสถานการณ์ขอยืนยันว่ายังไม่มีอะไรที่จะเกิดความรุนแรง มีเพียงการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการแจกเอกสารซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ากองทัพในฐานะที่มีกำลังพลมาก จะมีใบสั่งหรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า “ขอยืนยันว่าไม่มีใบสั่งแน่นอน คสช.เคารพการตัดสินใจของประชาชน อีกทั้งผู้บังคับบัญชาในคสช.ไม่ได้มีอะไรสั่งการเป็นพิเศษ ปล่อยให้กำลังพลทุกคนฟรีโหวตได้ ทั้งนี้ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องปฏิบัติตนให้ซื่อสัตย์สุจริต ประพฤติภายใต้กรอบกฎหมาย รวมทั้งอำนาจหน้าที่ด้วย”

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช.กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนได้ร่วมกันสร้างการรับรู้ให้ประชาชนตื่นตัวในการไปใช้สิทธิลงประชามติอย่างกว้างขวาง และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้ร่วมกันดูแลสถานการณ์ในทุกด้าน เพื่อมิให้มีการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมายขัดต่อแนวทางของ กกต. หรือทำให้สังคมเกิดความวุ่นวาย ซึ่ง กกล.รส.จะยังคงดูแลให้บรรยากาศโดยรวมของประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการลงประชามติทางศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งจะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง

พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวน น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมพวกว่า เจ้าหน้าที่กำลังสวบสวนรายละเอียดทราบว่ามีรายละเอียดมากขึ้นพอสมควร โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงรายละเอียดต่อไป ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการควบคุมตัว น.ส.ทัศนีย์พร้อมพวกนั้นทางเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ อนามัย สถานที่พัก สิ่งของเครื่องใช้ อาหาร และยารักษาโรค พร้อมทั้งย้ำว่าไม่ได้ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด แต่ปฏิบัติตามกฎหมาย และอำนาจหน้าที่

สำหรับที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต่างเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เรียกร้องให้ปล่อยตัว ทีมโฆษก คสช.กล่าวว่า คสช.มีอำนาจควบคุมตัวได้ไม่เกิน 7 วัน หากครบ 7 วัน หรือการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จก็คงจะมีการปล่อยตัวและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป