xs
xsm
sm
md
lg

“พีระศักดิ์” หนุนงัดมาตรา 44 คุมประชามติ เตือน “เทือก-ตู่” จ้อเฟซบุ๊กรับผิดชอบตัวเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ภาพจากแฟ้ม)
รองประธาน สนช.แนะรองนายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 คุมกติกาประชามติ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรา 61 วรรคสอง พ.ร.บ.ประชามติขัดรัฐธรรมนูญปี 57 เตือน “สุเทพ-จตุพร” เฟซบุ๊กไลฟ์จ้อเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ รับผิดชอบตัวเอง ทำผิดต้องโดนคดี

วันนี้ (26 มิ.ย.) นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมใช้เฟซบุ๊กไลฟ์พูดเรื่องร่างรัฐธรรมนูญเช่นกัน หลังจากที่หลายฝ่ายบอกว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) สามารถทำได้ว่า เป็นเรื่องที่ทั้งสองคนต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง เพราะจะพูดอะไรก็ได้ไม่มีใครห้าม กฎหมายก็ไม่ได้ห้ามพูด แต่อย่าพูดผิดข้อเท็จจริง ถ้าผิดจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งคู่ รัฐบาลไม่มีสองมาตรฐาน หากพูดในสิ่งที่ผิดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ต้องดำเนินการ ขณะที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็คงห้ามไม่ให้พูดไม่ได้ เพราะมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 เขียนไว้ชัดเจนว่าให้มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง แต่อย่าไปจัดการชุมนุมทางการเมือง

ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มาตรา 61 วรรคสองตาม พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติฯ ขัดรัฐธรรมนูญ ยังมีช่องทางของมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพื่อควบคุมสถานการณ์ในช่วงการทำประชามติได้ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ก็ถูกต้อง เพราะ หากนำ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติฯ กลับมาแก้ไข คงไม่ทัน แต่การใช้มาตรา 44 ก็ต้องไม่ย้อนนำสิ่งที่ศาลชี้ว่าขัดไปเป็นมาตรา 44 เพราะคำวินิจฉัยของศาลผูกพันทุกองค์กร ดังนั้น จึงต้องนำสิ่งที่ศาลวินิจฉัย หรือเสนอแนะมาเป็นแนวทางในการออกคำสั่งตามมาตรา 44 เพราะมาตรา 44 ก็ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเช่นกัน

นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ส่วนการลงพื้นที่จังหวัดลำปาง ตามโครงการ สนช.พบประชาชนครั้งนี้ก็ได้ให้กำลังประชาชนว่าทุกคนยังมีเสรีภาพอยู่ เพราะตอนนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ครู ก. ครู ข. และ ครู ค. ในแต่ละพื้นที่เกร็งที่จะแสดงความเห็นกันไปหมด จึงขอว่า อย่างไปเกร็งที่จะแสดงความเห็น เพราะ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติฯ เป็นกฏหมายอาญา ถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่ถือว่าเป็นการทำผิด สามารถแสดงความเห็นทั้งข้อดี ข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญได้ แต่ไม่ควรชักจูงหรือบิดเบือนข้อมูล เพราะถ้าทำเช่นนี้จะถือว่าผิด

เมื่อถามว่า ในพื้นที่จังหวัดลำปางมีการเคลื่อนไหวด้วยการขึ้นป้ายปราบโกง นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามสิทธิและเสรีภาพก็ไม่อยากปราม แต่ถ้าหวังผลทางการเมืองก็ไม่เหมาะสม เพราะบรรยากาศยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ แต่เป็นบรรยากาศที่จะให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ อยากฝากไปถึงพรรคการเมือง รวมถึงกลุ่มการเมืองทั้งหลายให้รักษาบรรยากาศโดยรวมของประเทศ เพราะเวลาที่ตนเดินทางไปต่างประเทศ ทุกคนเข้าใจปัญหาในประเทศไทย พร้อมส่งความปรารถนาดีว่า อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมปมีการเลือกตั้งในปี 2560 ดังนั้น กลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีทางการเมือง และขอให้นึกถึงประเทศไทยด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น