เด็กเพื่อไทยบอกร่างรัฐธรรมนูญจะกระทบแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 เหตุประชาคมโลกไม่ยอมรับ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นหากมีการบังคับใช้ร่างร้ฐธรรมนูญที่กำลังจะออกเสียงประชามติ วันที่ 7 ส.ค.นี้ว่า ตามที่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 สำหรับ ปี 2560-2564 ได้กำหนดให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวปีละ 5% ทุกปีตลอด 5 ปี จะเป็นไปไม่ได้เลยภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่นี้ เพราะหากเศรษฐกิจไทยจะโต 5% ตลอด 5 ปีได้ ประเทศไทยต้องสร้างความเชื่อมั่นจากต่างประเทศในเรื่องการลงทุนและการส่งออก แต่รัฐธรรมนูญนี้ถูกประชาคมโลกทักท้วงอย่างมากซึ่งไม่น่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่ต่างประเทศได้ ขนาดยังไม่ทันไรฟิทช์ เรทติ้งส์ ก็ประกาศปรับลดอันดับของประเทศไทยแล้ว
อีกทั้งหลายประเด็นในรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ ของรัฐเพื่อพัฒนาประเทศจะมีข้อจำกัดและทำได้ลำบากมาก อีกทั้งการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยก็จะทำได้ยากมากเช่นกัน ทั้งๆ ที่การช่วยเหลือประชาชนส่วนใหญ่ที่มีรายได้น้อยเป็นความจำเป็นของทุกประเทศเพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับความเป็นอยู่ แต่กลับถูกโจมตีว่าเป็นประชานิยมทำชาติล่มจม หากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังมีรายได้ไม่เพิ่มขึ้น ประเทศก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาได้ อีกทั้งการกระจายรายได้ก็จะล้มเหลว และที่ผ่านมาการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยก็ไม่ได้ทำให้ประเทศล่มจมแต่อย่างใด เป็นเพียงวาทะกรรมโจมตีเท่านั้น เพราะหนี้สาธารณะต่อจีดีพีของไทยอยู่ในระดับ 45% เท่านั้นซึ่งยังต่ำมาก ดังนั้น หากรัฐธรรมนูญนี้ทำให้ต่างประเทศไม่มั่นใจ การลงทุนโครงการใหญ่ๆ ของภาครัฐทำได้ลำบาก การช่วยเหลือประชาชนรายได้น้อยทำได้ยาก ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้ประเทศพัฒนาตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ประสบความสำเร็จได้และจะล้มเหลวอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สองปีที่ผ่านมารัฐบาลและ คสช.บริหารประเทศทำให้เศรษฐกิจไทยโตได้เพียง 0.7% และ 2.8% เท่านั้น