xs
xsm
sm
md
lg

ทนายเสื้อแดงบี้ ปธ.กกต.ฟัน กรธ.พิมพ์คำอธิบายร่าง รธน.ชี้นำ บอกแต่ข้อดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงประธานกรรมการการเลือกตั้ง จี้ดำเนินคดีกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ อ้างจัดพิมพ์คำอธิบายร่างรัฐธรรมนูญขัดกฎหมายประชามติ ชี้นำชาวบ้าน พูดแต่ข้อดี



วันนี้ (25 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต.ขอให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรณีจัดทำสิ่งพิมพ์ชื่อ “คำอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ” เล่ม 1 จำนวน 35 หน้า ซึ่งมีเนื้อหาที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116

โดยนายนรินท์พงศ์กล่าวว่า เนื้อหาเอกสารดังกล่าวมีการชี้นำประชาชน 7-8 ประเด็น มีการยกตัวอย่างไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลในอดีต ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีกว่าอย่างไร และหากนำมาใช้ก็จะไม่ทำให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา เป็นการชี้นำให้คนไปรับร่างรัฐธรรมนูญ อาทิ มีการบอกว่าที่มา ส.ว.จากการสรรหาดีกว่า ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งยึดโยงพรรคการเมืองและสั่งได้ เป็นการอธิบายให้เห็นถึงข้อดีเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้บอกถึงข้อดีข้อเสียให้ประชาชนได้รู้ ตนจึงนำดังกล่าวมาร้องต่อ กกต.เพื่อให้ดำเนินการต่อ กรธ.

เมื่อถามว่า ตาม พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 10 คุ้มครองการกระทำของ กรธ.ว่าไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย นายนรินท์พงศ์กล่าวว่า เรามาทำหน้าที่ของประชาชนที่เสนอให้ กกต.ดำเนินการเท่านั้น ส่วนวิธีการอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับ กกต. แม้ กกต.จะบอกว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติเป็นกฎหมายอาญาประชาชนแจ้งความเองได้ แต่ประธาน กกต.เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายดังกล่าว ถ้าใครเห็นว่ามีความผิดเกิดขึ้นก็ต้องมาร้องต่อ กกต.ให้ดำเนินการ

มีรายงานว่า ตามหนังสือร้องเรียนมีการระบุถึงเนื้อหาในเอกสารคำอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญที่ผู้ร้องเห็นว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย เช่น การกล่าวถึงหลักเกณฑ์การใช้สิทธิและเสรีภาพที่มีการระบุเพื่อให้บุคคลไม่ใช้สิทธิและเสรีภาพกันอย่างเกินเลยเหมือนเช่นหลายปีที่ผ่านมาจนทำบ้านเมืองเสียหาย, การกล่าวถึงเรื่องรัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลังตามกฎหมายว่าด้วยวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฐานะทางการเงินการคลังของรัฐมีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างยั่งยืนไม่ใช่จ่ายเงินงบประมาณฟุ่มเฟือยอย่างที่ผ่านๆ มา ไม่สร้างภาระรุงรังหนักหนาสาหัสแก่ลูกหลานในอนาคต เป็นต้น



กำลังโหลดความคิดเห็น