xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิช” ตั้งเป้าคนมาใช้สิทธิลงประชามติ 80% เร่งครู ก.ชวนลงทะเบียนนอกเขต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กกต.ด้านการมีส่วนร่วม เปิดอบรมวิทยากร ครู ก.ทั่วประเทศ 1 แสนคน ระบุเป็นทัพหน้าสร้างเครือข่ายแม้ไม่มีเลือกตั้ง ชักชวนลงทะเบียนออกเสียงนอกเขตจังหวัด ตั้งเป้าคนมาใช้สิทธิร้อยละ 80 ลดจำนวนบัตรเสียไม่เกิน 3% กำชับไม่ชี้นำ ไม่ต้องอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยไม่ได้ แกนนำเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊กไม่รับ รวมทั้งไม่ขอออกความเห็น นปช. เอายูเอ็นมาสังเกตการณ์

วันนี้ (17 มิ.ย.) นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม เป็นประธานเปิดการประชุมอบรมวิทยากร ครู ก. เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ รุ่นที่ 5 โดยกล่าวว่า ครู ก.คือทัพหน้าของ กกต. แม้จะไม่มีการเลือกตั้งมา 2 ปี แต่ก็ทำงานอย่างแข็งขันในการสร้างเครือข่าย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การทำประชามติจึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับทุกท่าน หน้าที่ของเรา 2 ส่วน คือ 1. การเตรียมการออกเสียงลงคะแนนซึ่งอยู่ในฝีมือของทุกคนและเป็นที่ยอมรับ และ 2. การสื่อสาร ที่ต้องการให้มีการออกเสียงคุณภาพโดยพลเมืองคุณภาพ โดยเราตั้งเป้าไว้ร้อยละ 80 เป็นการตั้งเป้าสูงเพื่อให้คุ้มแรงเหนื่อย นอกจากนี้ยังขอให้เร่งรณรงค์เพราะการออกเสียงประชามติครั้งนี้ไม่มีการออกเสียงล่วงหน้า และนอกราชอาณาจักร

นายประวิชยังย้ำว่า ในการรณรงค์ไม่ต้องสนใจว่าประชาชนจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้ออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด และลดจำนวนบัตรเสียให้มีไม่เกินร้อยละ 3 การรณรงค์จะต้องไม่ชี้นำ และไม่ต้องอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นหน้าที่ของ กรธ.

ส่วนกรณีมาตรา 61 วรรคสองของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ ที่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น นายประวิชได้กล่าวชี้แจงว่า อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล แต่เชื่อว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร จะไม่กระทบต่อการทำประชามติ เพราะมาตรา 7 เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการที่จะเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ และเผยแพร่ความเห็นได้ ทั้งนี้ ตัวกฎหมายมีโทษทางอาญา กกต.ไม่ได้ไปตัดสิน แต่ประชาชนที่เห็นการกระทำผิดไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษได้ ดังนั้นอะไรที่สุ่มเสี่ยงอย่าไปทำ

จากนั้นนายประวิชให้สัมภาษณ์ว่า การอบรมในครั้งนี้เป็นกระบวนการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ครู ก.ทั่วประเทศ ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 1 แสนคน เชื่อว่าครู ก.จะสามารถลงพื้นที่ได้ แม้มีเวลาในการอบรมไม่นาน เพราะเราได้เตรียมความพร้อมมาก่อนหน้านี้ 2 ปีแล้ว นอกจากนี้ ให้เร่งรณรงค์และชักชวนให้ประชาชนไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัด ที่เหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ที่จะเปิดโอกาสให้ลงทะเบียน และจะหมดเขตในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มจำนวนคนออกมาใช้สิทธิ และจะทำให้จำนวนของบัตรเสียลดลง

ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊กไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายประวิชกล่าวว่า ตนวินิจฉัยไม่ได้ เพราะ พ.ร.บ.ประชามติ รองรับการแสดงความคิดเห็นที่สุจริตบนข้อกฎหมาย ซึ่งยังไงก็ไม่ผิด แต่ผู้แสดงความคิดเห็นต้องรับผิดชอบว่าไม่ได้บิดเบือน หรือหลอกลวง และอยู่บนข้อเท็จจริง ซึ่ง สนช.ก็อธิบายมาตลอดว่าต้องการเห็นความสงบเรียบร้อย การทำประชามติในครั้งนี้มีระยะเวลายาวนานกว่าการทำประชามติปี 50 ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจ และในช่วงนั้นไม่มีไลน์ ไม่มีเฟซบุ๊กที่เปิดกว้างมากขึ้น ดังนั้นคนที่แสดงความคิดเห็นใดๆ ต้องรับผิดชอบและแสดงความเห็นบนความเป็นจริง

“ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็นได้ ไม่มีความผิด แต่ต้องอยู่บนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และความสุจริต การรับผิดชอบมีความสำคัญว่าเรากำลังพูดจริง และที่ผ่านมาก็แสดงความเห็นได้เรียบร้อยดี” นายประวิชกล่าว

ส่วนที่กลุ่ม นปช.จะยื่นให้ยูเอ็นเข้ามาสังเกตการณ์การจัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามตินั้น นายประวิชปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เนื่องจาก กกต.มีหน้าที่เพียงรักษาการตาม พ.ร.บ.ประชามติเท่านั้น ดังนั้นจะพยายามทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด ส่วนกฎหมายอื่นก็มีผู้รักษาการอยู่ กกต. ต้องไม่วินิจฉัยอะไรที่นอกเหนือจาก พ.ร.บ.ประชามติ หรือในเรื่องความผิดอื่นนอกเหนือที่ กกต.รักษาการ ไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.จะไปวินิจฉัย





กำลังโหลดความคิดเห็น