นายกฯ เปิดให้ประธาน กก.โอลิมปิกไทยนำทัพนักกีฬาเข้าเยี่ยม พร้อมยินดีเป็นตัวแทนชาติแข่งขัน และเป็นทูตสันถวไมตรีด้านกีฬา วัฒนธรรม รบ.พร้อมส่งเสริมพัฒนา ย้ำมีน้ำใจนักกีฬา เชื่อฟังกรรมการ ประท้วงได้แต่เราต้องการเพื่อน ขอให้ประสบความสำเร็จ ฝาก รมว.ท่องเที่ยวฯ สร้างนักกีฬาสรีระได้ ปลุกมวยสู้ต่อยชนะใจคนดู แนะอย่ากดดันตัวเองแบบตน
วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาโอลิมปิกที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 31 ที่เมืองริโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้โอวาทว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมนักกีฬาที่ได้รับคัดเลือกในการเป็นตัวแทนประเทศไทย ไทยถือเป็นส่วนหนึ่งในสังคมโลกจึงต้องแสดงขีดความสามารถในการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้น โดยทุกอย่างอยู่ที่การฝึกฝน เอาจริงเอาจังของทุกคนในทีมที่เป็นส่วนสำคัญ
นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยค่อนข้างเสียเปรียบประเทศตะวันตก เนื่องจากเป็นคนตัวเล็ก ขาสั้นกว่า เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามทำตัวให้สูง กระโดดให้สูงกว่า เขาวิ่งก้าวเดียวเราวิ่งสองก้าวซึ่งเหนื่อยเหมือนกัน รู้ว่าเป็นความยากลำบาก ต้องขอบคุณโค้ชทุกคนทั้งไทยและต่างประเทศที่มาช่วยดูแลนักกีฬาไทย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรตนไม่เคยตำหนิ วัตถุประสงค์การแข่งขันเพื่อชัยชนะ ต้องมีความหวัง และอีกสิ่งหนึ่งการไปเป็นทูตสันถวไมตรีทางด้านการกีฬา และวัฒนธรรม ที่ไปกับตัวทุกคนคือประเทศไทย ไม่ใช่ตัวเองคนเดียว จะทำดีไม่ดี ก็ประเทศไทยร่วมอยู่แล้ว ปีนี้ประเทศไทยได้รับรางวัลทางด้านการกีฬาหลายรางวัล ทั้งนักกีฬาอาชีพและสมัครเล่น จนรัฐบาลต้องปรับงบประมาณ และวิธีการเพื่อดูแลมากขึ้น มีหลายเรื่องที่รัฐบาลนี้ต้องเอาใจใส่ ต้องแก้ไขในไปด้วยกัน กว่ามาถึงจุดนี้ได้ ก็น่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง ครอบครัว และความภาคภูมิใจของสมาคมโอลิมปิก ทั้งนี้ รัฐบาลยินดีส่งเสริมพัฒนาเรื่องการสร้างนักกีฬาใหม่ การสร้างมหาวิทยาลัยกีฬา ซึ่งติดตามนำไปสู่การปฏิบัติ
“สิ่งที่เราต้องการวันนี้คือ ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ เป็นสิ่งสำคัญ การจะทำอะไรก็ตาม ถ้ากีฬามีตัดสินได้ ถ้าเราเชื่อฟังกรรมการ ก็ได้ผู้ชนะ ผู้แพ้ แต่ถ้าทำอะไรแล้วไม่ฟังใครเลย ก็ไม่มีใครถูกใครผิด ทุกคนจะเอาชนะกันข้างเดียวไม่ได้ ต้องมีกรรมการ ผมก็จะเป็นกรรมการอยู่ตรงนี้ นี้คือสิ่งสำคัญและเป็นหลักการง่ายๆ ที่จะทำให้หลายอย่างไปหาข้อยุติให้ได้ กีฬาถ้ามีปัญหาก็ประท้วงกันไป เขาให้โอกาสอยู่แล้ว แต่ถ้ามันไม่มีอะไรมากมายนัก ผมว่าเราก็ต้องการเพื่อน” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับพวกท่านทุกคนถือเป็นตัวแทน เราจะรอฟังความสำเร็จ ส่งกำลังใจไปช่วย หลายอย่างเราก็ไปสู่แนวหน้าของโลกในการเป็นนักกีฬาอาชีพ ทั้งแบดมินตัน กอล์ฟ ยกน้ำหนัก ที่ได้ข่าวได้เหรียญไปเยอะ ตนเอาใจช่วยอวยพรให้ประสบความสำเร็จ ปีที่แล้วมีพลาดไปบ้างก็ไม่เป็นไร โอกาสมีแก้ไขได้ตลอด และสิ่งที่อยากจะเตือนทุกคนคือ ทุกคนคือประเทศไทย คือคนไทย เป็นหน้าตาประเทศ ต้องมีน้ำใจนักกีฬา เคารพกติกา ใจเย็นที่สุด อย่าไปขัดแย้ง อย่าทะเลาะกัน ต่อยตีกันไม่ได้ เราต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะเป็นตัวแทนของประเทศ และเป็นแรงบรรดาใจให้กับประชาชน และเยาวชน ตนได้ให้แนวทางกับ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ว่านักกีฬาบางทีเอาคนที่เล่นกีฬาเป็นมา มันง่าย เพราะเล่นเป็นอยู่แล้ว และการพัฒนาก็รวดเร็ว แต่ต้องสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ ที่สรีระได้ ก็ฝากความหวังไว้ในอนาคต นักกีฬาถ้าแข็งแรง สูง ขายาว แขนยาว มันก็มีโอกาสมากขึ้น ส่วนกีฬามวยตนก็รอเหรียญ ตนรู้ว่ามันยาก แต่ก็ต้องสู้เพื่อชนะใจคนดู แต่ห้ามตาย ต้องปลอดภัย ซึ่งรู้จักป้องกันอยู่แล้ว หากจิตใจมุ่งมั่นก็ชนะอยู่
“ผมขอฝาก ถ้าไปเล่นไม่หวังชนะ นอนบ้านดีกว่า แต่ก็อย่าไปกดดันตัวเอง เพราะถ้าคาดหวังจะเกร็งไปหมด จะหมดแรงตั้งแต่ต้น เหมือนผม บางทีก็กดดัน เครียด บางทีอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรก็หมดแรง เพราะเครียด โมโหอะไรต่างๆ ถ้าทุกคนทำใจให้สบาย มันก็จะไปได้ เพราะเราฝึกมาดีแล้ว ถึงวันนั้น เราต้องทำให้ดีกว่าสถิติที่ทำไว้ เมื่อเรามีแรงฮึดขึ้นมา มันก็จะดีกว่าเดิม น่าจะสำเร็จขึ้นมาได้ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ผมในฐานะนายกฯ รัฐบาล และคนไทยทั้งประเทศ ให้กำลังใจเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะรอต้อนรับอีกครั้งหนึ่ง ยินดีต้อนรับเสมอ เพราะท่านคือนักกีฬาไทย คือประเทศไทย” นายกฯ กล่าว จากนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ได้มอบเสื้อสูทสามารถโอลิมปิกให้แก่นายกฯ เป็นที่ระลึกและร่วมถ่ายรูปกับนักกีฬา โค้ช และเจ้าหน้าที่โอลิมปิกทั้งหมด