ศาลปกครองไต่สวนพีซทีวีขอเพิกถอนคำสั่ง กสท.ถอนใบอนุญาต ชี้ละเมิดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว “จตุพร” โวยคำสั่ง คสช.ให้อำนาจ กสทช.ควบคุมสื่อ ลิดรอนเสรีภาพ วอนศาลหาทางออกกันช่องถูกปิด “เหวง” จี้ คสช.เลิกคำสั่งก่อนบานปลาย
วันนี้ (15 ก.ค.) นายสุชาติ ศรีวรกร ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง ในฐานะตุลาการเจ้าของสำนวนในคดีหมายเลขดำ ที่ 1163/2558 ที่บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ขอให้เพิกถอนคำสั่ง กสทช.ที่สั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ของบริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ได้เริ่มไต่สวนคู่กรณีตามคำร้องขอของ นพ.เหวง โตจิราการ ผู้ดำเนินรายการและผู้บริหารบริษัท พีซ เทเลวิชั่นฯ ที่เห็นว่าการที่ กสท.มีมติเมื่อวันที่ 11 ก.ค.พักใช้ใบอนุญาตบริษัท พีซ เทเลวิชั่น เป็นเวลา 30 วันนั้นถือเป็นการละเมิดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองสูงสุดที่พีซทีวีสามารถแพร่ภาพออกอากาศต่อไปก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ ที่ 1163/2558 ก่อน โดยการไต่สวนครั้งนี้ในส่วนของพีซทีวีนอกจาก นพ.เหวงแล้ว นายจตุพร พรหมพันธุ์ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายยศวริศ ชูกล่อม นายสมหวัง อัสราษี ยังเข้าให้ถ้อยคำต่อศาลด้วย ขณะที่ในส่วนของ กสท.มีนายสมบัติ ลีลาพตะ รองเลขาธิการสำนักงาน กสทช.เข้าชี้แจง
นายจตุพรกล่าวก่อนการชี้แจงว่า เรื่องที่ใหญ่กว่าการปิดพีซทีวีในวันนี้คือการที่ คสช.มีคำสั่งที่ 41/2259 ให้อำนาจ กสทช.ในการควบคุมสื่อ ถือเป็นการลิดรอนสิทธิภาพของสื่อ แต่คำสั่งดังกล่าวไม่ถือเป็นการคุ้มครองการกระทำของเจ้าหน้าที่ กสทช.ที่เลือกปฏิบัติ หวังว่าการไต่สวนในครั้งนี้ศาลจะได้ช่วยหาทางออกให้แก่พีซทีวี และ กสทช. เพราะหากไม่คำสั่งใดๆ ออกมาเป็นอย่างอื่น กสทช.ก็จะมีการปิดพีซทีวีตั้งแต่ 21 ก.ค.
ด้านนาย นพ.เหวงกล่าวว่า กรณีของพีซทีวีเป็นเพียงแค่กองไฟเล็กๆ ที่ คสช.ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาล แต่ คสช.ก็กลับมีคำสั่งที่ 41/2259 ออกมา ซึ่งเหมือนเป็นการเอาน้ำมันถังใหญ่สาดเข้าไปในกองไฟที่จะลุกลามไปทั่วเมือง เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน จึงอยากเรียกร้องให้ คสช.ถอนคำสั่งดังกล่าวเสียก่อนที่จะเกิดเหตุบานปลาย