นายกรัฐมนตรีไม่ว่าอะไรกฤษฎีกาชี้อำนาจตั้งสมเด็จพระสังฆราชเริ่มที่มหาเถรสมาคม บอกมีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ยันต้องรอคดีเรียบร้อยก่อน อย่ามองแง่เดียว เผย รมว.สาธารณสุขกำลังแก้ประเด็นโรงพยาบาลเอกชนถอนประกันสังคม ถ้าไม่รับก็ไปที่อื่น งบมีอยู่เท่านี้ก็ทำให้ดีที่สุด แต่จะให้เพิ่มเงินแล้วเอาเงินมาจากไหน
วันนี้ (11 ก.ค.) ที่อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเวลา 12.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นกรณีที่มีผู้ร้องเรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตีความกฎหมายในมาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535 ในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ โดยให้เริ่มต้นจากมหาเถรสมาคม (มส.) ว่าไม่ได้ว่าอะไร อำนาจใครก็อำนาจใคร ตนมีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย แล้วตนทูลเกล้าฯ ในสิ่งที่มีปัญหาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็จบ เมื่อถามว่าต้องรอคดีจบก่อนใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดไม่ออกหรือว่าต้องรอกระบวนการเรียบร้อยก่อน
“แล้วไม่กลัวว่าจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันหรืออย่างไร วันนี้มีกี่พวก อย่ามองบ้านเมืองในแง่ดีแง่เดียว มันมีพร้อมทุกเรื่อง” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งแจ้งความประสงค์ถอนตัวออกจากการประกันสังคมว่า เรื่องนี้ รมว.สาธารณสุขกำลังแก้ไขอยู่ ต้องเข้าใจเรื่องของงบประมาณอยู่ที่ภาษีประชาชน แล้วภาษีประชาชนขึ้นหรือยัง เมื่อถามว่าประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจะต้องทำอย่างไร นายกฯ ตอบว่า ถ้าโรงพยาบาลไหนไม่รับก็ไปที่อื่น ตนทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะสร้างกันมาแบบนี้ ก็เป็นอย่างไร ทุกคนมีสิทธิเท่ากันหมดก็ถูกต้อง เพราะมันเป็นสิทธิ แล้วเตรียมความพร้อมกันหรือยัง ถ้าเตรียมความพร้อมกันแล้ว มีเงินมีทองเหลือเยอะแยะเหลือเฟือก็ทำไปเถอะ เท่าไหร่ก็ได้ แต่วันนี้งบประมาณมีอยู่เท่านี้ เดี๋ยวไปทวงกับรัฐบาลหน้าเอา รัฐบาลนี้ก็ทำให้ดีที่สุด แต่จะให้เพิ่มเงินตรงนี้ ก็ต้องเพิ่มให้หมดทั้งประเทศ แล้วจะเอาเงินมาจากไหน เงินรัฐบาลได้มาอย่างไรก็รู้หมดอยู่แล้ว