ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชี้เป็นดุลพินิจกรรมการสรรหาเลือก “เรวัต” นั่งผู้ตรวจการแผ่นดินอีกหน สมัครเข้ามาก็พิจารณาไปตามกฎหมาย ด้านโฆษกวิป สนช.ยังไม่รู้ใช้กรรมาธิการชุดเดิมสอบประวัติหรือไม่ คาดอาจมีข้อมูลใหม่ให้สมาชิกตัดสินใจ โบ้ยความสง่างามเป็นความรับผิดชอบของ กก.สรรหา ต้องเคารพมติ
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่หอดุริยางค์ กองดุริยางค์กองทัพเรือ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเลือกนายเรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ และอดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้ง หลังจากที่ที่เสียงส่วนใหญ่ของ สนช.ไม่รับรองว่า ถือเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสรรหา โดยพิจารณาตามคุณสมบัติ และมีมติเลือก ส่วนจะเป็นเพราะเหตุผลและสาเหตุใดไม่มีการอภิปราย เป็นการใช้ดุลพินิจของแต่ละคน ส่วนที่ต้องเลือกถึง 30 รอบ เพราะคะแนนยากกว่าจะได้ 4 เสียง
เมื่อถามอีกว่า ก่อนหน้านี้ สนช.มีมติไม่เลือกเรวัต แต่กรรมการสรรหาจะเลือกนายเรวัตอีกเป็นเพราะเหตุใด นายพรเพชรกล่าวว่า กรรมการสรรหาก็ว่าไปตามกฎหมาย เมื่อมีการสมัครเข้ามาก็พิจารณาไปตาม คุณสมบัติว่าผู้ใดเหมาะสม ถือเป็นหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย
ขณะที่รัฐสภา เมื่อเวลา 12.00 น. นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนายพรเพชร จะบรรจุเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสนช.เมื่อใด แต่ตามขั้นตอนจะต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบประวัติและจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะใช้คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ชุดเดิมหรือชุดใหม่ โดยการพิจารณาของคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ครั้งนี้ อาจจะมีข้อมูลใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาให้ที่ประชุม สนช.ได้พิจารณาตัดสินใจไปแล้ว ครั้งนี้สมาชิก สนช.จะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นสิทธิของแต่ละคน ส่วนจะมีความสง่างามหรือไม่ในการเสนอชื่อนายเรวัตกลับมาอีกครั้ง ถือเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการสรรหาที่มาจากประมุขของศาลต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งสิ้น คงตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่มีเพิ่มเข้ามาใหม่จึงตัดสินใจเสนอชื่อนายเรวัตกลับมาอีกครั้ง ก็ต้องเคารพมติของคณะกรรมการสรรหา และถือเป็นสิทธิของนายเรวัตที่มีสิทธิกลับมาสมัครใหม่ได้เพราะไม่มีข้อห้ามไว้