“ประวิตร” แจงตั้งศูนย์รักษาความสงบเพื่อสนับสนุนประชามติ ให้ผู้ว่าฯ ร่วมกับทหาร-ตร.ดูแล ย้ำต้องทำให้เกิดความเรียบร้อย จนท.ไม่จำเป็นต้องไปอยู่ที่คูหา จับตาดูพื้นที่ล่อแหลม ยันคนละแบบศูนย์ปราบโกงฯ เหตุแดงสั่ง จนท.ไม่ได้ โต้ พท.ไม่มีให้เงินชาวนาหากรับร่างฯ ไม่เคยคิดรีเซตพรรคการเมือง ปัดปิดพีซทีวี โยนหน้าที่ กสทช. - ให้ฝ่ายเกี่ยวข้องหารือภาพรวมแก้ กม.ฆ่าข่มขืนต้องประหาร
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อสนับสนุนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ว่าเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ร่วมกันดูแล ยังไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ต้องดูแลทุกอย่างให้เกิดความเรียบร้อยโดยบูรณาการการทำงานร่วมกัน มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบหลัก ดูแลทุกเรื่องในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อยทุกพื้นที่
เมื่อถามว่าทหารจำเป็นต้องไปอยู่ที่คูหาในวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 7 ส.ค.นี้ ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่จำเป็น เราต้องดูความเหมาะสมโดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนพื้นที่ที่ล่อแหลมว่าจะเกิดความรุนแรงนั้นก็จะต้องจับตาดู แต่ตนคิดว่าคงไม่เกิดเหตุรุนแรง ส่วนที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่าศูนย์ดังกล่าวคล้ายกับศูนย์ปราบโกงประชามตินั้น ตนยืนยันว่าไม่เหมือนกัน และถามว่า นปช.จะไปสั่งทหารและตำรวจช่วยดูแลได้หรือไม่ นปช.เขาตั้งเองแบบคิดเองเออเอง
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐออกไปรับปากชาวบ้านว่าถ้าลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญจะให้เงินช่วยเหลือ โดยเฉพาะชาวนา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มี ที่เจ้าหน้าที่ไปให้เงินนั้นไม่เกี่ยวกัน และเขาให้ไปก่อนหน้านั้นแล้ว เป็นคนละส่วนกัน แต่ถ้ามีใครไปแอบอ้างแบบนี้ถือว่ามีความผิดและต้องถูกจับกุม
ส่วนกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอรีเซตพรรคการเมือง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพวกเขาไปเอามาจากไหน เขาคงพูดเองเออเอง ตนเห็นจากข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้พูดแบบนั้น ในส่วนของ คสช.ยังไม่เคยคิดและยังตอบไม่ได้ เพราะเวลานี้ต้องทำให้การลงประชามติเกิดความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม หากคุณหญิงสุดารัตน์จะรวมตัวอดีตนักการเมืองก็ทำได้ แต่อย่าผิดกฎหมาย เพราะตนจะใช้กฎหมายดำเนินการหมดเพื่อให้คนไทยรู้สึกว่าจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายชัดเจน ส่วนการทำกิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาที่ ม.ธรรมศาสตร์ ขอให้อยู่ภายในมหาวิทยาลัยและขอร้องว่าอย่าเป็นเรื่องการเมือง
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า คสช.จะปิดช่องพีซทีวีในวันนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คสช.ไม่เคยคิดจะปิดช่องพีซทีวี เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทั้งนี้ต้องถามว่าพีซทีวีทำอะไรผิด ซึ่งต้องถามสาเหตุด้วย เพราะไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปปิดได้ ทุกอย่างต้องมีเหตุผล เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพิจารณา
พล.อ.ประวิตรยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสสังคมสนับสนุนให้แก้กฎหมายประหารชีวิตผู้ที่มีความผิดข้อหาฆ่าข่มขืน สืบเนื่องจากกรณีคนร้ายฆ่าปาดคอโหด น.ส.จุฬารัตน์ โทวรรณา อายุ 27 ปี ครูสอนเด็ก ป.5 โรงเรียนเอกชนชื่อดังในพื้นที่เขตเทศบาล ต.แก่งคอย จ.สระบุรี ว่าเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้ดูแล เพราะประเทศเราไม่มีเรื่องการประหารชีวิตมานานแล้ว เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับสังคม ในส่วนของตนให้ความเห็นไม่ได้เพราะจะกลายเป็นว่าตนพูดคนเดียว ดังนั้นต้องหารือกันในภาพรวมก่อนว่าควรจะมีกฎหมายประหารชีวิตหรือไม่ อย่างไร รวมถึงต้องให้นักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงได้คิดและพิจารณาเรื่องนี้ก่อน
