กกต.ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เชิญกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แจงร่างรัฐธรรมนูญ และการทำประชามติ พร้อมเร่งระดมคนประชาสัมพันธ์ นัดทำบิ๊กเดย์ 4 ส.ค.กระตุ้นคนมาใช้สิทธิ หวังต้องมาจากปี 50 คาดร่าง รธน.ถึงมือก่อนปลายเดือนนี้ บอกศูนย์รักษาความสงบฯ ตั้งเพื่อดูแลความเรียบร้อย เชื่อบัตรเสียลด ด้านไปรษณีย์ไทยมั่นใจส่งทัน
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จัดประชุมมอบนโยบายและการชี้แจงแนวทางการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ โดยศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยจังหวัดทุกจังหวัด (ผอ.กศน.จังหวัด) ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทั่วประเทศ (ผอ.กศน.อำเภอ) และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมรวมทั้งสิ้นจำนวน 1,200 คน โดยมีนายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และนายประพันธ์ นัยโกวิท กรธ.มาให้ความรู้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแก่ผู้เข้าร่วมประชุม
โดยนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวมอบนโยบายว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการซักซ้อมความเข้าใจช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันออกเสียงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. เหลือระยะเวลาอีกเพียง 34 วัน โดยทาง กกต.และเครือข่ายต่างๆ อาทิ กรรมการของศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) กว่า 74,000 คน จะเดินหน้าเคาะประตูบ้านและชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการออกมาใช้สิทธิออกเสียง รวมถึงเครือข่าย รด.จิตอาสา และดีเจประชาธิปไตย ก็จะเร่งดำเนินการรณรงค์เพื่อให้ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติให้มากที่สุด และใช้สิทธิอย่างมีคุณภาพโดยมีความรู้ความเข้าใจเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ และในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ทาง กกต.ก็มีกำหนดจัดกิจกรรม “บิ๊กเดย์” พร้อมกันหลายจังหวัดเพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีความคาดหวังว่าตัวเลขของผู้มาออกเสียงในครั้งนี้จะต้องมียอดผู้ใช้สิทธิสูงกว่าการออกเสียงประชามติเมื่อปี 2550 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ เพียง 57เปอร์เซ็นต์
นายประวิชยังให้สัมภาษณ์อีกว่า กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า กกต.ไม่ได้แจกร่างรัฐธรรมนูญและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงนั้น ปัจจุบันนี้สื่อต่างๆ มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ประชาชนสามารถติดตามและค้นหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ ส่วนเอกสารสรุปย่อสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญที่ กกต.จะแจกให้แก่ประชาชนจำนวน 17 ล้านครัวเรือนนั้น คาดว่าจะส่งถึงมือประชาชนก่อนถึงวันออกเสียงประมาณ 15 วัน หรือช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้
ส่วนกรณีที่รัฐบาลตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยเกี่ยวกับการทำประชามติ นายประวิชกล่าวว่า เท่าที่ทราบเป็นการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลความเรียบร้อยเพื่อให้การทำประชามติเดินหน้าไปได้ สอดคล้องกับกฎหมายที่รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ต้องช่วยกัน โดยทาง กกต.ไม่ขัดข้องใดๆ
เมื่อถามว่า ทางโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ได้เผยแพร่ผลสำรวจของประชาชนโดยกว่าร้อยละ 50 ไม่รู้วันออกเสียงประชามติ นายประวิชกล่าวว่า ตนยังมีความมั่นใจในสื่อบุคคลของ กกต.ที่กำลังเร่งดำเนินการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ ดังนั้นประเด็นนี้ไม่น่ากังวล แต่เหลือเพียงอย่างเดียวคือทำเช่นไรให้ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิอออกเสียงอย่างมีคุณภาพโดยไม่มีข้อผิดพลาด
“เดิมมีการพูดกันเยอะมากว่าทำแบบนั้นจะผิดทำแบบนี้จะผิดก็เลยให้คาถาใหม่ 3 ข้อ คือ 1. เวลาออกมาลงคะแนนต้องทำเครื่องหมาย 2. เครื่องหมายนั้นต้องเป็นเครื่องหมายกากบาท และ 3. ต้องกากบาทในช่องที่กำหนดไว้ เพียงเท่านี้เชื่อว่าบัตรเสียจะลดลงแน่นอน แต่อย่าไปเขียนข้อความหรือถ่ายรูป เพราะการออกเสียงก็เหมือนการเลือกตั้งทั่วไปที่ต้องดำเนินการด้วยความลับ” นายประวิชกล่าว
ขณะที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หลักสี่ เมื่อเวลา 10.30 น. นายสิริพงษ์ พงษ์พานิช ผู้อำนวยการสำนักบริหารทั่วไป สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนายสมชาย นันตา ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าธุรกิจ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นำเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนดูการตรวจรับและการจัดส่งจุลสารสรุปย่อสาระสำคัญการออกเสียงประชามติ หรือ Booklet เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชน ณ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งการจัดส่งในครั้งที่นี้เป็นล็อตที่ 3 จำนวน 5 ล้านฉบับ เพื่อนำไปแจกจ่ายพร้อมเอกสารแจ้งเจ้าบ้าน ในภาคเหนือ ตะวันออก ตะวันตก และ กทม. รวมก่อนหน้านี้กว่า 3 ล้านฉบับที่ใช้ในการเผยแพร่ของ กกต.ประจำจังหวัดที่อบรมในระดับต่าง จำนวน 3 ล้านฉบับ และเหลืออีก 5 ล้านฉบับที่จะจัดส่งพื้นที่ภาคกลาง ครั้งสุดท้ายวันที่ 6 กรกฎาคม รวมทั้งหมด 20 ล้านฉบับ
นายสิริพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ส่งไปในพื้นที่ภาคใต้และตะวันออกเฉียงเหนือ และในครั้งนี้จะส่งเป็นล็อตที่ 3 โดยมั่นใจว่าการจัดส่งจุลสารสรุปย่อสาระสำคัญการออกเสียงประชามติจะส่งถึงประชาชนก่อนวันออกเสียงประชามติ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาสาระสำคัญ ที่จะมีการสรุปย่อร่างรัฐธรรมนูญ และตัวอย่างบัตรเลือกตั้ง พร้อมยื่นยันการจัดส่งที่ผ่านมาไม่มีปัญหา
ขณะที่นายสมชายกล่าวยืนยันการจัดส่งที่ผ่านมาไม่มีปัญหา โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกลงมา ทางไปรษณีย์มีมาตรการป้องกันอย่างดี และเมื่อไปถึงศูนย์ของไปรษณีย์แต่ละจังหวัด จะจัดส่งให้เจ้าบ้านได้ไม่เกิน 3 วัน มั่นใจว่าในล็อตสุดท้ายจะจัดส่งได้ในวันที่ 10 กรกฎาคม ถือว่าเร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้ และที่กฎหมายกำหนดว่าต้องจัดส่งก่อนวันออกเสียงประชามติ 15 วัน