นายกฯ ปิดงานประชุมจัดการน้ำ ระบุ เรื่องน้ำบรรจุอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมรับมือลานีญา ผุดโครงการส่งน้ำทางท่อ พร้อมให้มหาดไทย - กทม. บริหารน้ำในเมืองใหญ่ ย้ำต้องหาจุดร่วมมือตรงกลางให้ได้
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เมื่อเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกล่าวปิดการประชุม “Thailand Sustainable Water Management Forum 2016” โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี ให้การต้อนรับ
นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ปัญหาทั่วโลกมีหลายอย่าง สิ่งสำคัญคือ ปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง โรคระบาด ภัยคุกคาม และการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจเดียวกัน ซึ่งทุกคนจะต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเอง สำหรับประเทศไทยรัฐบาลได้มีการศึกษาและการเตรียมความพร้อมกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ 20 ปี สำหรับปัญหาเรื่องของน้ำนั้น ในส่วนประเทศไทย ต้องยอมรับว่า แม้จะมีปริมาณน้ำฝนที่มากพอ แต่ร้อยละ 70 ปริมาณเหล่านั้นได้ไหลลงสู่พื้นดิน เราสามารถที่จะกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น นี่คือ ปัญหาใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องมาหาวิธีเพื่อที่จะกักเก็บน้ำให้ได้มากยิ่งขึ้น เพื่อนำมาเป็นประโยชน์ใช้สอยมากยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้เราคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำแล้ว และตนดีใจที่แต่ละชุมชนและองค์กรได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ในส่วนของรัฐบาลก็มีการเร่งในการบริหารจัดการน้ำต้นทุนในเขื่อน ฝาย และแหล่งน้ำต่าง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฝนมักจะตกที่ท้ายเขื่อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปีนี้ทางกรมอุตุนิยมวิทยา สภาพอากาศโลกได้มีการคาดการณ์ไว้แล้วว่า ไทยจะได้รับผลกระทบปรากฏการณ์ลานีญา ซึ่งฝนจะตกต่อเนื่องยาวไปจนถึงปลายปี ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือและแก้ไขปัญหา
“ทุกคนตั้งใจหมด อย่ามากลัวผม ทำความดีจะไปกลัวอะไรใคร ตนจะไปรังแกใครได้ ตนใช้อำนาจของตนในทางที่ถูก ในทางที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ ถ้าคิดทำให้ประเทศต้องเห็นปัญหาทั้งหมด ผมไม่ได้บังอาจเก่งกว่าท่าน เพียงแต่ว่าต้องมาเตือนท่านเหมือนกัน ไม่ใช่มองสิ่งบันเทิงอย่างเดียว ถ้าท่านมาอยู่ตรงนี้มีแต่ความทุกข์ มีความสุขไม่ได้ ถ้ามีความสุข แสดงว่า ประชาชนทุกข์อยู่ แต่ถ้าประชาชนมีความสุข แสดงว่า เราต้องมีความทุกข์ เพราะต้องทำงานสาหัส เพื่อให้ประชาชนมีความสุข เป็นหน้าที่ของเรา โลกใบนี้ไม่มีใครผิดใครถูก เว้นกฎหมาย เพราะกฎหมายทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันหมด อย่างอื่นมันเท่าเทียมกันไม่ได้หรอก สิ่งที่ทำให้โลกนี้สงบร่มเย็น คือ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ผมมีหน้าที่ตรงนี้ ทำให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ฝากบอกให้เข้าใจด้วย เหนื่อยนะ แต่ไม่เป็นไร สู้ไหว” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาน้ำแล้ง ที่ผ่านมา ชาวนาทำนานอกฤดูกาลแย่งกันสูบน้ำ จะเอาทหารถือปืนไปยืนเฝ้าได้ไหม มันไม่ได้ พี่น้องคนไทยด้วยกันปัญหานั้นต้องสงสารเขา ฉะนั้น วันนี้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจะต้องมองไปถึงเส้นทางหลักที่จะต้องมีโครงการส่งน้ำทางท่อ สามารถเปิดปิดได้ ต้องมีโครงการเหล่านี้เกิดขึ้นมาด้วยนอกจากที่วางแผนไว้แล้ว และเรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำอย่ากังวลว่าจะเป็นภาระผูกพัน ซึ่งเราได้วางไปถึงปี 2565 จะมีขั้นตอนการดำเนินการแต่ละปี ดังนั้น ต้องมีการวางแผนบริหารจัดการน้ำทั้งเชิงคุณภาพและนิเวศ รองรับภัยแล้งและน้ำท่วม รวมถึง กทม. ที่ตนได้สั่งการไปแล้ว ทุกปีฝนตกน้ำก็ท่วม รถติด ก็โดนด่าอีก จึงให้กระทรวงมหาดไทย และ กทม. ไปวางแผน ร่วมกัน เพื่อเป็นการบริหารจัดการน้ำในเมืองใหญ่
นายกฯ กล่าวว่า การจะก่อสร้างอะไรก็มักจะติดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ต่อไปตนจะให้ท้องถิ่นพิจารณากันเอง ถ้าอยากมีโครงการอะไรที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง หรือโครงการอะไรที่สำคัญ ถ้าอยากมีจะให้เงินไปทำ ถ้าไม่อยากได้ก็ไม่ต้องทำ ไม่เช่นน้ำก็ทำไม่ได้เสียที นี่คือปัญหา ต้องหาจุดร่วมมือตรงกลางให้ได้ ต้องบูรณาการ และปฏิรูปตามแผนโรดแมป และยุทธศาสตร์ชาติ หากไม่เดินตามนี้ก็จะกลายเป็นการเมืองไปทั้งหมด เรื่องนี้วันหน้าจะต้องไม่เกิดขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า ขอถามว่า มีคนฟังที่ตนพูดในรายการคืนความสุขหรือไม่ ถ้าไม่ฟังก็ขอให้เปิดยูทูปดูย้อนหลัง หรืออ่านหนังสือพิมพ์ในวันเสาร์ บางคนอยากดูละครก็บังคับไม่ได้ แต่ตนเป็นคนแบบนี้ ทีแรกมีคนเสนอให้เอาดารามาถามในรายการ แต่สรุปแล้วขอพูดเองเหมือนเดิมดีกว่า เพราะยิ่งพูดยิ่งยาวไม่อยากรบกวน สองสัปดาห์ที่ผ่านมา พูดแค่ 28 กับ 32 นาที คิดถึงกันบ้างไหม อะไรที่ไม่จำเป็นตนไม่อยากพูดอยู่แล้ว วัน ๆ พูด3 - 4 เรื่อง เจ็บคอจะตาย แต่มีความตั้งใจจะทำให้ไม่ใช่แค่ประเทศ แต่เป็นอาเซียน รวมถึงประชาคมโลก
“ผมมีหน้าที่นำพาประเทศชาติในระยะเวลาที่เปลี่ยนผ่านตรงนี้ให้ได้ ให้ประเทศชาติมีความเข้มแข็งในทุกภาคส่วน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ได้รับการยอมรับนับถือบนเวทีโลก แม้เขาจะว่าผมอย่างไรก็ตาม แต่ก็คิดว่าทำให้ประเทศไทย ถ้าใครคิดว่าไม่มีประโยชน์ก็ไปลงประชามติเอา ผมไม่ได้ห้ามใคร อยากจะลงอย่างไรก็ลง แต่อย่ามาถามผมว่าถ้าไม่ผ่านแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ วันนี้ผมอยากให้ทุกคนนำพาประเทศชาติ ข้าราชการไม่ต้องห่วงถ้าไม่ทำความผิด และผมอยากคืนสิทธิหลายอย่างที่ท่านควรได้ โดยจะวางอนาคตในวันหน้า ทั้งการปฏิรูประบบราชการ และตำรวจ คิดไว้หมดแล้ว ขอให้อดทนกันหน่อย ถ้าไม่ทำผิดตำรวจก็ไม่จับ จะไปเรียกผลประโยชน์ไม่ได้ ยืนยันผมไม่สนับสนุนใครในการหาผลประโยชน์แม้แต่เพียงบาทสลึงก็ไม่ได้ ยิ่งใน ครม. ไม่ได้เลย ฉะนั้น กรุณาหาข้อมูลมาให้ชัดเจนว่าใครเรียกตรงไหน เราต้องแก้ปัญหาคอร์รัปชันให้ได้ เพราะหมักหมมมานาน” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อเช้าตนคุยกับนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งได้รายงานความคืบหน้าของประเทศไทย ท่านก็รับฟัง เพราะตนต้องพูดกับท่าน เพราะมีคนช่างฟ้องอยู่ ตนก็ถามท่านว่าต้องทำไงกับคนพวกนี้ ไปฟ้องกันทุกวัน
“ขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลจะทำอะไรได้ เอาไปอุดบ่อ อุดอะไรไว้ได้มั้ย ก็ถือเป็นคนไทยทั้งสิ้น แต่เขาก็ว่าผมทุกวัน ความจริงใครว่าผมก็ไม่ได้ ด้วยตัวของผมเอง ด้วยอำนาจที่มีอยู่ ใครก็ว่าผมไม่ได้ แต่นี้ไงสิ่งที่ผมพยามทำให้ทุกคน ผมยอมรับในสิ่งที่มันเจ็บปวด นอนกลางคืนผมก็ฝันร้ายทุกคืน ฝันว่างานนั้นทำเสร็จหรือยัง บางทีเหมือนนั่งทำงานอยู่ ตื่นมาก็มานั่งคิดต่อ ว่าพรุ่งนี้จะสั่งการอะไร คือผมสั่งได้ทั้งวัน ผมมีชีวิตอย่างนั้นมาตลอด ตลอดชีวิตของการเป็นทหาร” นายกฯ กล่าว