นายกรัฐมนตรีไม่ตอบสื่อได้แต่ยิ้่มโบกมือทัก นำรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจบินเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการ หวังกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนสองชาติ คาดลงนามความตกลง 3 ฉบับ
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางอรรชกา ศรีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ เดินทางเยือนสาธารณรัฐอินเดียอย่างเป็นทางการ ระหว่าง วันที่ 16-18 มิถุนายน 2559 ทั้งนี้ นายกฯ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ทุกกรณีโดยเฉพาะกรณีปัญหาการเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยนายกฯ ได้แต่ยิ้มพร้อมโบกมือปฏิเสธการให้สัมภาษณ์
สำหรับสาระสำคัญของการเยือนดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้กระชับความสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนของทั้งสองประเทศอย่างรอบด้าน ทั้งในระดับทวิภาคี ภูมิภาคและในเวทีระหว่างประเทศ รวมทั้ง ติดตามประเด็นความร่วมมือที่เคยได้หารือกันไว้ที่เป็นผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมการค้าการลงทุน การส่งเสริมสินค้าเกษตรของไทย การเร่งพัฒนาความเชื่อมโยงระหว่างกัน ตลอดจน ความร่วมมือด้านการศึกษา การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และความมั่นคง ฯลฯ ในช่วงที่ผ่านมาไทยและอินเดียมีความสัมพันธ์และความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินเดียในครั้งนี้ รัฐบาลอินเดียได้จัดให้มีพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยมีกำหนดการหารือข้อราชการกับนายเอ็ม ฮามิด อันสารี รองประธานาธิบดีอินเดีย นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย และนางศุษมา สวราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ รวมถึงการประชุมเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีกลุ่มย่อยที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการลงนามความตกลงจำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 1) แผนปฏิบัติการว่าด้วยโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม 2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับมหาวิทยาลัยนาคาแลนด์ 3) บันทึกความเข้าใจระหว่างธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กับธนาคาร Axis จำกัด
นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยมีกำหนดการพบปะกับภาคเอกชนอินเดียและนักลงทุนไทยที่ดำเนินนักธุรกิจในอินเดีย รวมทั้งการกล่าวสุนทรพจน์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจต่อสมาคมธุรกิจอินเดีย 3 สถาบัน ประกอบไปด้วย 1) Federation of Indian Chambers of Commerce and Industry (FICCI) - สมาพันธ์สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย 2) Confederation of Indian Industry (CII) สมาพันธ์อุตสาหกรรมอินเดีย 3) Associated Chambers of Commerce of India (ASSOCHAM) สมาคมหอการค้าแห่งอินเดีย
โดยในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้เดินทางสักการะศาสนาสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ณ เมืองคยา รัฐพิหาร และจะเป็นประธานในพิธีสวดมนต์และเจริญจิตภาวนาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ที่วัดมหาโพธิ์พุทธคยา รวมทั้งจะถวายภัตตาหารเพลพร้อมทั้งปัจจัยไทยทานแด่พระภิกษุสงฆ์ที่วัดไทยพุทธคยาอีกด้วย