“นิกร” เผย กมธ.ปฏิรูปความปลอดภัยถนน ถกเหตุรถตู้ชนต่อเนื่อง ชี้ส่วนใหญ่สภาพไม่เหมาะวิ่งระยะไกล บรรทุกเกิน เชื้อเพลิงที่ใช้อันตราย เล็งมีมาตรการตรวจสอบ ตั้งอนุ กมธ.ผุดศาลจราจร ลดปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 20 มิลลิกรัม มีหลักสูตรสอนเด็ก
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ประธานกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แถลงว่าที่ประชุม กมธ.ได้พิจารณากรณีการเกิดอุบัติเหตุของรถตู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่รถตู้โดยสารเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำที่ถนนมอเตอร์เวย์แล้วเกิดไฟลุกไหม้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย พบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เนื่องจากรถตู้ไม่มีสภาพที่เหมาะสมกับการโดยสารระยะไกล มีการบรรทุกเกินกว่ากำหนด และเชื้อเพลิงที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นก๊าซแอลพีจี หรือเบนซินซึ่งอันตรายมาก เมื่อเกิดการรั่วไหลจะแพร่กระจายทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ดังนั้น กมธ.จึงจำเป็นต้องเข้าไปดูและรถตู้ที่มีอยู่อย่างเคร่งครัด โดยจะให้มีมาตรการตรวจสอบรถตู้โดยสารเกี่ยวกับอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ติดตั้งจีพีเอสควบคุมความเร็ว ปรับปรุงให้มีทางออกฉุกเฉิน มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยติดรถ
ทั้งนี้ กมธ.ได้ตั้งอนุกรรมาธิการฯ รวบรวมกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยทางถนน เพื่อยกร่างกฎหมายให้มีศาลจราจร และพิจารณากำหนดมาตรการด้านกฎหมายโดยปรับเปลี่ยนจาก “เมาไม่ขับ” เป็น “ดื่มไม่ขับ” พร้อมทั้งลดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดลงอีกให้เหลือไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และในอนาคตอาจมีการบรรจุหลักสูตรการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยทางถนนให้แก่เด็กนักเรียนตามความเหมาะสม ซึ่ง กมธ.เสนอให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันดำเนินการลงนามบันทึกความเข้าใจสำหรับดำเนินการต่อไป