รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต เชื่อประชามติกลายเป็นความขัดแย้งใหม่ หวั่นโหวตไม่ได้สะท้อนความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ชี้ภาพทำให้คาดการณ์ได้ว่าเลือกตั้งร้อนแรงขนาดไหน รับไม่มั่นใจจะได้กาบัตรหรือไม่ ระบุชาวบ้านต้องการความมั่นใจให้ประชามติเป็นบันไดสู่การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า ตนเห็นว่า ภาพความขัดแย้งก่อนวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะเป็น ข้อกังขาต่อบทบาทกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ การตั้งศูนย์ปราบโกงของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และท่าทีของพรรคการเมืองและกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ในขณะนี้ ตอกย้ำชัดเจนว่าประชามติ 7 สิงหาคมจะกลายเป็นความขัดแย้งใหม่ แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะตั้งใจดีอยากให้มีประชามติ และเข้าสู่โหมดเลือกตั้งตามโรดแมปก็ตาม แต่ภาพความวุ่นวายก่อนวันประชามติจะปรากฏชัดขึ้น จนทำให้การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ได้สะท้อนความเห็นของประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง แต่จะมีความเห็นอื่นๆ ทางการเมืองมาเป็นปัจจัยชี้ขาดในการตัดสินใจของประชาชน
“ภาพความขัดแย้งวุ่นวายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้พอจะคาดการณ์กันได้ว่าช่วงเลือกตั้งความขัดแย้งจะกลับมาร้อนแรงขนาดไหน การเมืองของความแตกแยกจะกลับมาเยือนอีกหรือไม่ คงคาดการณ์กันได้ไม่ยาก แม้ส่วนตัวอยากให้มีการลงประชามติตามกำหนดการเดิมและอยากเห็นการประชามติอยู่ในกรอบของการรับ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่ถูกบิดเบือนไปรับใช้เจตนารมณ์ทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่วันนี้ไม่มันใจว่าจะมีการลงประชามติหรือไม่ ที่สำคัญถ้ามีแล้วบ้านเมืองจะเดินสู่โรดแมปหรือเข้าสู่การปฏิรูปและออกจากความขัดแย้งแตกแยกได้หรือไม่ คสช.จะพูดแต่เพียงว่าจะเดินหน้าประชามติ ไม่มียกเลิกนั้นไม่ได้สร้างความมั่นใจอะไรให้กับประชาชนเท่าที่ควร เพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือความมั่นใจว่าประชามติครั้งนี้จะเป็นบันใดขั้นหนึ่งของการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่ใช่ประชามติเพื่อประชามติเท่านั้น” รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าว