“สุริยะใส” ห่วงประชามติเป็นแค่เกมการเมืองของขั้วขัดแย้ง ไม่ได้ยึดเนื้อหา รธน. แนะนักวิชาการเสนอทางออกดีกว่าประกาศรับ - ไม่รับ กลุ่มที่รับก็ควรแจงเหตุ อย่ากล่าวหาฉาบฉวยอีกฝ่าย ย้ำ คสช. ปฏิรูป ปราบโกง เวลาที่เหลือ ปชช. อาจหนุนร่าง
วันนี้ (17 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) แสดงความเห็นเป็นห่วง ว่า การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะกลายเป็นแค่เกมการเมือง หรือสงครามสัญลักษณ์ของขั้วขัดแย้งทางการเมือง การตัดสินใจอาจไม่อยู่บนฐานของเนื้อหาสาระในร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง บางส่วนที่ตั้งธงโหวตโนตั้งแต่ยังไม่เขียนรัฐธรรมนูญกันก็จะฉวยใช้จุดอ่อนในร่างรัฐธรรมนูญเพื่อขยายผลสนองเจตนาทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังการลงประชามติซึ่งต้องจับตา
นายสุริยะใส เผยว่า ในส่วนของนักวิชาการ หรือกลุ่มที่พยายามรักษาภาพความเป็นกลางทางการเมืองก็ควรมีข้อเสนอ หรือทางออกที่สามพ่วงเข้ามาให้ประชาชนพิจารณาก็น่าจะดีกว่าประกาศว่ารับหรือไม่รับเท่านั้น เพราะการประรับหรือไม่รับง่ายเกินไปในสถานการณ์ที่มีความสลับซับซ้อนกว่าตอนทำประชามติเมื่อปี 2550 ส่วนกลุ่มที่ประกาศรับร่างรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การปราบโกง และการปฏิรูปประเทศนั้น ก็ควรนำประเด็นเด่นออกมาเผยแพร่รณรงค์มากกว่าจะกล่าวหาฝ่ายที่ไม่รับแบบฉาบฉวย ซึ่งจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่าร่างรัฐธรรมนูญมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนถ้าทุกฝ่ายเอาข้อเท็จจริงออกมารณรงค์แบบนี้ก็จะถือเป็นกระบวนการเรียนรู้ของสังคมไทยครั้งใหญ่อีกครั้ง
นายสุริยะใส เผยต่อว่า ยังเชื่อว่า มีคนจำนวนมากที่ยังไม่ตัดสินใจ เพราะคิดว่ายังมีเวลาแต่อยากเห็นความชัดเจน หรือรูปธรรมการปฏิรูปและการปราบโกงจาก คสช. ก่อนวันลงประชามติ ซึ่งยังมีเวลาอีกกว่า 4 เดือน ถ้า คสช. เร่งผลักดันผลงานปฏิรูปและการปราบโกงอย่างจริงจัง ประชาชนอาจจะรับได้กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะการปฏิรูปหรือการปราบโกงทำได้เลยโดยไม่ต้องรอรัฐธรรมนูญประกาศใช้