“ไก่อู” เผย “ประยุทธ์” ยินดี WHO ยกย่องไทย เปลี่ยนสังคมที่มีการระบาดเอชไอวีได้ผล เป็นชาติที่ 2 ของโลก ยับยั้งแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูก สานต่อแนวทางคัดกรอง ย้ำความสำเร็จต้องยั่งยืน
วันนี้ (9 มิ.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รู้สึกยินดีที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศยกย่องความสำเร็จที่โดดเด่นของประเทศไทยซึ่งสามารถเปลี่ยนสังคมที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ให้กลายเป็นแบบอย่างของการแก้ไขวิกฤตสาธารณสุขอย่างได้ผล และถือเป็นชาติแรกของเอเชีย และเป็นประเทศที่ 2 ของโลก ตามหลังคิวบา ในการยับยั้งการแพร่เชื้อไปสู่ประชากรอีกรุ่นหนึ่ง
“ท่านนายกฯ ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกองค์กรและหน่วยงานภาคี โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข และพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือร่วมใจกันป้องกันและหยุดยั้งการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูก นับตั้งแต่อดีตที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เฉพาะในปี 2543 มีจำนวนทารกแรกคลอดติดเชื้อเอชไอวี 1,000 คน แต่ลดลงเหลือเพียง 85 คนในปี 2558 ซึ่งเข้าเกณฑ์ยุติการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกที่องค์การอนามัยโลกได้ประกาศไว้”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า รัฐบาลได้สานต่อแนวทางการตรวจคัดกรอง และรักษาพยาบาลฟรีถ้วนหน้าแก่หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี และทำงานอย่างเข้มแข็งขึ้น โดยการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขที่ครอบคลุมถึงระดับชุมชน หญิงที่ฝากครรภ์ทุกคนจะได้รับการเจาะเลือดหาเชื้อเอชไอวี และได้รับยาต้านไวรัสทันทีหากทราบว่าติดเชื้อ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสของการแพร่เชื้อสู่ทารกในครรภ์ และยังมีการตรวจหาเชื้อเอชไอวีระหว่างการตั้งครรภ์อย่างสม่ำเสมอ ถึงในพื้นที่ชนบทห่างไกล
“ท่านนายกฯ ย้ำว่า แม้ไทยจะได้รับเสียงชื่นชมจากนานาประเทศ แต่สิ่งสำคัญที่รัฐบาลและคนไทยจะต้องช่วยกันต่อไปคือ ทำอย่างไรให้ความสำเร็จนั้นยั่งยืน โดยไม่ปล่อยให้เป็นภาระของใครคนใดคนหนึ่ง และเชื่อว่าการมีรัฐบาลและนโยบายที่เข้มแข็ง การจัดการที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่าย หรือประชารัฐ จะช่วยสนับสนุนให้การแก้ปัญหาทุกเรื่องบรรลุเป้าหมายที่วางไว้”