xs
xsm
sm
md
lg

จับ “ธัมมชโย” ชาตินี้ส่อลากยาว-กระชากหน้ากากกำลังซ้อนรัฐ !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



“ถ้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำกำลังตำรวจ - ทหาร เข้าไป มันจะเกิดอะไรขึ้น คิดดูกันบ้าง ปี 2553 มันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีใครสักคนเอาอาวุธปืนมายิงใส่กัน แต่ละข้างจะเกิดอะไรขึ้น เอาทหาร - ตำรวจ เข้าไป แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีคนยิงเข้ามา ทางนี้ก็ต้องป้องกันตัว มันก็จะไปโดนคนที่สวดมนต์อยู่หรือเปล่า อยากให้เป็นอย่างนั้นกันหรือ ถ้าอยากก็เร่งกันเข้ามาเรื่อย ๆ กดดันเจ้าหน้าที่กันต่อไป กล่าวหาว่าไม่ไปทำหน้าที่เสียที หาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ซึ่งไม่กลัว กฎหมายเขามีเขียนไว้อยู่แล้ว ว่า ถ้าจะทำให้สถานการณ์บานปลาย เขาก็รอไปก่อนได้ จับวันนี้หรือวันหน้าก็เหมือนกัน บางกรณีก็ละเว้นได้ด้วยสถานการณ์ภายใน”

“ผมถามว่า ถูกต้องหรือไม่ ปิดประตูเอาลวดหนามมาล้อม เหตุการณ์เหมือนตั้งป้อมค่ายที่สวนลุมฯ คิดกันบ้าง เอาอดีตมาเรียนรู้ ทหารก็ต้องทำหน้าที่เข้าไปดูแล แล้วก็มีการยิงอาวุธใส่มา จะให้ทำอย่างไร ต้องการให้เกิดอย่างนั้นอีกหรือ ไม่พอหรือตายกันเยอะแยะยังไม่พอ แล้วจะยังปลุกกันต่อไป จากนี้ไปก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน จะให้ผมมารับผิดชอบคนเดียวผมไม่รับ ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ถือว่าเป็นการทำให้เหตุการณ์บานปลายจนแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้ามีการจับตั้งแต่แรกควบคุมตัว หรือมอบตัวก็จบไปแล้วไม่ใช่หรือ คดีก็ยังไม่สิ้นสุดว่าผิดหรือถูก ก็ต้องไปพิสูจน์ทราบกันก็จบแค่นั้น อย่ามาบอกว่าไปรังแกพระ มันไม่ใช่ มีการโกงมาตั้งแต่เรื่องของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ มีการโอนเงินเข้ามา ก็ไปพิสูจน์ทราบกันว่ามันไม่ใช่ แต่ปล่อยมาจนกลายเป็นว่าเราไปรังแกพระ มันไม่ใช่ แต่เอาเป็นว่าชาตินี้จับได้แน่นอน”

คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่วชาติ ได้อธิบายถึงสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ยังไม่บุกเข้าไปจับกุม พระเทพญาณมหามุณี(ไชยบูลย์ สุทธิผล) หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาความผิดสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร จากการรับเช็คจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น หลังจากที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับไปแล้ว ความหมายก็คือ ยังไม่จับ เพราะเกรงว่าจะเกิดบานปลาย มีการปะทะกันด้วยอาวุธมีคนบาดเจ็บล้มตาย เจ้าหน้าที่สามารถรอจังหวะได้ แม้ว่าจะกล่าวว่า “ยังไงก็จับในชาตินี้แน่นอน” อาจฟังดูเป็นการพูดแบบทีเล่นทีจริง แต่ความหมายอธิบายชัดอยู่แล้วว่ารอไปก่อน หรือรอจังหวะเหมาะ

อย่างไรก็ดี ในความหมายดังกล่าวยังซ่อนไว้ด้วยนัยสำคัญ ก็คือ ต้องการรอให้บรรดาแนวร่วม และกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ ที่แฝงตัวอยู่ทั้งภายนอกภายในอาณาจักรธรรมกายแสดงตัวตนออกมาให้มากที่สุดก่อนต่างหาก ก็อย่างที่รับรู้กันสถานะของ ธัมมชโย ในเวลานี้ ไม่ต่างจาก “โจรหนีคดี” มีชนักปักหลัง ถึงอย่างไรก็อยู่ไม่เป็นสุข ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีกทั้งสภาพในเวลานี้อธิบายกับสังคมส่วนรวมได้ลำบาก ศรัทธาก็จะเสื่อมลงเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็ไม่มีทางเหมือนเดิมแน่นอน

ยิ่งภาพปรากฏเป็นป้อมค่าย ประตูหอรบ ดูน่ากลัว ลึกลับ มองยังไงก็ไม่ใช่สถานที่ปฏิบัติธรรม มีความสงบไปได้ ภาพที่ปรากฏออกมามันสามารถอธิบายความหมายได้ชัดเจนยิ่งกว่าล้านคำเสียอีก เวลานี้อาณาจักรธรรมกายกลายเป็น “รัฐอิสระ” ท้าทายกฎหมาย ท้าทายอำนาจรัฐอย่างชัดเจน

ขณะเดียวกัน ยิ่งมีบรรดาพวก “หัวโจก” คนเสื้อแดง อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาปกป้อง ธัมมชโย ในทำนองว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ คดีฉ้อโกงรับของโจรแบบนี้ ถือว่าเป็นคดีเล็กน้อย มันก็ยิ่งทำให้ไปกันใหญ่ และเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นว่าคนพวกนี้มันเป็น “เครือข่ายเดียวกัน” ที่เกื้อหนุนกันมาตั้งแต่ยุค ทักษิณ ชินวัตร เป็นใหญ่ ที่เคยมีการสงสัยกันว่าวัดพระธรรมกายเป็นที่พักพิง พักอาวุธของกองกำลัง หรือมวลชนคนเสื้อแดงในอดีต ซึ่งเวลานี้ปรากฏออกมาให้เห็นขัด

ที่อ้างว่า คดีดังกล่าวเป็นเรื่องเล็ก หรือมีความเชื่อว่า ธัมมชโย บริสุทธิ์ โดนกลั่นแกล้งนั้น มันก็ถึงเวลาที่ต้องพิสูจน์ ทุกคนย่อมมีความเชื่อตามพื้นฐานข้อมูลที่ตัวเองมีอยู่ ลองไปถามญาติ ๆ ของโจรที่ถูกขังคุกในเวลานี้ หรือพวกนักโทษพวกเขาก็ยังเชื่อว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ หรือ “เขาหาว่า” กันแทบทั้งนั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะคดีเล็กน้อย หรือคดีใหญ่ มันก็ต้องพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรม และศาลจะเป็นผู้ตัดสินตามพยานหลักฐานที่แต่ละฝ่ายนำมาหักล้างกัน มันต้องมีเหตุผลที่มาที่ไป ไม่ใช่ตัดสินกันด้วยความเชื่อ

สำหรับบรรดาแนวร่วมที่เป็นพวกเดียวกัน นั้นนาทีนี้กำลังรอพิสูจน์ไปถึงวงการสงฆ์ทั้งในมหาเถรสมาคม ว่าจะมีท่าทีอย่างไร เพราะคงจะนิ่งเฉยแบบธุระไม่ใช่ หรือไม่ใช่กิจของสงฆ์ต่อไปอีกไม่ได้ และเรื่องนี้ยังเกียวพันไปถึง “สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์” ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ อีกด้วย ซึ่งทุกความเคลื่อนไหวสังคมกำลังจับตามองอยู่

ดังนั้น กรณีของ ธัมมชโย มองในมุมบวก ก็ถือว่า มันได้เห็นตัวตนของแต่ละคนแต่ละกลุ่มที่ถูกบังคับให้แสดงบทบาทออกมาในแบบถูกกระชากหน้ากากออกมา ขณะเดียวกันนับจากนี้ไป คนพวกนี้ก็จะมีสถานะไม่เหมือนเดิม การโปรโมตเดินสายก็จะถูกจำกัดลง และการที่จะรอผลัดเปลี่ยนอำนาจรอสถาปนา ทักษิณ ชินวัตร กลับมานั้น ก็อยากพิสูจน์กันเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร และเมื่อย้ำว่า ถึงอย่างไรต้อง “จับในชาตินี้” ในความหมายที่ว่ายังไม่บุกจับแบบหักด่านลากคอออกมาในเร็ววัน เพราะสภาพในตอนนี้ไม่ต่างจากนักโทษที่ไร้อิสรภาพแล้ว

สำหรับ รัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่ถืออำนาจรัฐ หากปล่อยให้ลอยนวลอย่างถาวร มันก็เสี่ยงที่จะตกอยู่ในภาวะความเสี่ยงตามมาหลายอย่างเหมือนกัน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นศรัทธา !!
กำลังโหลดความคิดเห็น