พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพูดถึงเหตุผลที่ไม่บุกเข้าไปจับธัมมชโยในวัดธรรมกายว่า ถ้าดีเอสไอนำกำลังตำรวจ ทหารเข้าไป แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นคิดดูกันบ้าง ปี 2553 มันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีใครสักคนเอาอาวุธปืนมายิงใส่กันแต่ละข้างจะเกิดอะไรขึ้น เอาทหาร ตำรวจเข้าไป แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนยิงเข้ามา ทางนี้ก็ต้องป้องกันตัวมันก็จะไปโดนคนที่สวดมนต์อยู่หรือเปล่า อยากให้เป็นอย่างนั้นกันหรือ
เหตุการณ์ 2553 คือการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ใช้มวลชนเป็นโล่มนุษย์ และมีกองกำลังติดอาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ จนทหารต้องนำกองกำลังติดอาวุธไปสลายการชุมนุมนำมาสู่การเสียชีวิตของมวลชนเกือบร้อยชีวิต
พล.อ.ประยุทธ์พูดไม่ผิดหรอกว่า ถ้านำกองกำลังเข้าไปจับธัมมชโยจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกัน เพียงแต่ขณะนี้ธรรมกายยังไม่ปรากฏกองกำลังติดอาวุธที่แจ่มชัดเหมือนกับเสื้อแดงที่ปรากฏตัวในวันที่ 10 เมษายน 2553 ก่อนเกิดโศกนาฏกรรม เพราะสิ่งที่เราเห็นผ่านภาพข่าวการเตรียมของธรรมกายนั้นไม่ต่างกับคนเสื้อแดงเลย และดูแล้วยังยากกว่าการเข้าสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงเพราะธรรมกายมีป้อมค่ายเป็นรั้วรอบขอบชิดที่หนาแน่น
แถมสานุศิษย์ประกาศออกมาแล้วว่า จะยอมตายเพื่อธัมมชโย
การเชื่อมโยงเสื้อแดงกับธรรมกายของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เห็นว่า คนเสื้อแดงพากันออกมาปกป้องธัมมชโยอย่างเห็นได้ชัดว่าทั้งเสื้อแดงและธรรมกายเป็นแนวร่วมของกันและกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า ธรรมกายเป็นแหล่งพักพิงของคนเสื้อแดงมาตลอด
ทักษิณสร้างอาณาจักรทางโลก ในขณะที่ธัมมชโยสร้างอาณาจักรทางธรรม
คนเสื้อแดงเข้าใจว่าทักษิณคือวีรบุรุษประชาธิปไตย การต่อสู้เพื่อทักษิณคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เช่นเดียวกับสาวกของธัมมชโย ธัมมชโยคือพระอริยสงฆ์ การต่อสู้เพื่อธัมมชโยคือ การต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนา
ก่อนที่ทักษิณจะเร่ร่อนเขาเกือบยึดครองประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ เขาซื้อกระบวนการยุติธรรมบางลำดับชั้น ซื้อพรรคการเมือง ซื้อตัว ส.ส. ส.ว. ซื้อองค์กรอิสระ ซื้อนักวิชาการ ซื้อคนเดือนตุลาเข้ามาเป็นพวก ในขณะที่ธัมมชโยถวายปัจจัยจนมีพระผู้ใหญ่กลายเป็นพวกเกือบหมด มหาเถรสมาคมจึงเป็นองค์กรบ้าใบ้แม้พระองค์หนึ่งจะถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนหลักคำสอนของพุทธศาสนา ใช้เล่ห์เพทุบายหลอกลวงเอาเงินจากคนที่หลงศรัทธาราวกับมิจฉาชีพ
ยืนหยัดท้าทายอำนาจของสมเด็จพระสังฆราช ประมุขทางสงฆ์ไปจนท่านสิ้นพระชนม์ ทักษิณก็ท้าทายอำนาจรัฐไม่ต่างกันเลย
มีพระสงฆ์เพียงไม่กี่รูปที่ออกมาต่อต้านธัมมชโยจนเกือบจะเป็นเสียงส่วนน้อย ในขณะที่พระสงฆ์ส่วนใหญ่ยังคงนิ่งเงียบ นักวิชาการด้านศาสนาก็เหมือนกันมีเสียงต้านธัมมชโยอยู่บ้างแต่แผ่วเบามาก ทั้งที่หลักคำสอนของธัมมชโยนั้นผิดเพี้ยน และมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ล่อลวงจากการลุ่มหลงของสาวกมากกว่าการเป็นที่พึ่งพิงด้านจิตใจ และการมุ่งสอนให้คนประพฤติดี
ทักษิณสร้างมายาคติเรื่องประชาธิปไตยที่กินได้ ธัมมชโยสร้างสวรรค์ที่ซื้อได้ด้วยเงิน
ในขณะที่สื่อมวลชนก็ยังมีบางค่ายที่มีน้ำเสียงไปข้างธรรมกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายมติชน
ถ้ามองจากอดีตไม่น่าเชื่อว่าวันนี้มติชนจะยืนข้างธรรมกายธัมมชโย ภาพที่เห็นแชร์กันเป็นภาพคนพกปืนเหน็บที่เอวกำลังตีกับชาวนาในยุคเริ่มสร้างธรรมกายก็เป็นฝีมือของนักข่าวมติชน มติชนสุดสัปดาห์เคยพาดหัวขึ้นปกเปิดโปงธรรมกายว่าเป็นพุทธพาณิชย์ เวลาเปลี่ยนจุดยืนเปลี่ยน วันนี้ทิศทางของข่าวและบทความยืนข้างธรรมกายเต็มตัว
แต่ไม่แปลกอะไร เพราะนี่เป็นสื่อที่ยืนข้างระบอบทักษิณและคนเสื้อแดง
การมีปัญญาชนยืนข้างทักษิณและมีปัญญาชนยืนข้างธัมมชโย ทั้งสื่อและนักวิชาการเป็นภาพสะท้อนของสังคมที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะถ้าสื่อและนักวิชาการยังแยกแยะไม่ได้ มีคนบอกว่าทักษิณดี มีคนบอกว่าธัมมชโยดี ประชาชนยิ่งยากที่จะแยกแยะความผิดถูกได้ ดังนั้น จึงยังมีลิ่วล้อของทักษิณสร้างวาทกรรมหลอกลวงมวลชนตลอดเวลาว่า การสู้เพื่อทักษิณคือสู้เพื่อประชาธิปไตย การปกป้องธัมมชโยก็คือการปกป้องพุทธศาสนานั่นแล
ทั้งที่ทักษิณใช้คำว่าประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ และธัมมชโยใช้พุทธศาสนามาเป็นเครื่องมือหาประโยชน์
การฉ้อฉลฉ้อโกงและลวงโลกถูกปิดบังว่าเป็นเพียงอุดมการณ์ความเชื่อที่ต่างกัน ทักษิณเป็นคนดีแต่ถูกทำลายเพราะอิจฉาที่ทักษิณทำให้คนชั้นล่างอยู่ดีกินดีขึ้น เช่นเดียวกับธัมมชโยเป็นพระดีที่ถูกทำลายเพราะอิจฉาที่มีคนเลื่อมใสศรัทธามาก มอมเมาความเชื่อจนมีคนตายแทนทักษิณและธัมมชโยได้
แต่ผมไม่ค่อยเชื่อตรงที่พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า จะจับธัมมชโยได้ในชาตินี้ เพราะดูแล้วแม้จะยังอยู่ในวัดหรือไม่ก็ตาม ธัมมชโยก็เหมือนกับทักษิณนั่นแหละที่รัฐไทยไม่มีวันจับได้อีกแล้ว เพราะตราบที่ธัมมชโยยังจำศีลอยู่ในวัดไม่ออกมาข้างนอก อำนาจรัฐก็ไม่อาจแตะต้องธัมมชโยได้ ธัมมชโยแค่ซื้อเวลาให้รัฐบาลนี้จากไปตามโรดแมปเปลี่ยนรัฐบาลใหม่เมื่อไหร่นโยบายก็เปลี่ยน
ยิ่งถ้าเลือกตั้งแล้วพรรคของทักษิณกลับมา ธัมมชโยก็รอด ถึงวันนั้นอย่าไปหวังว่าดีเอสไอจะยังคงยืนหยัดต่อแนวทางที่ดำเนินอยู่ เพราะเราเห็นดีเอสไอมาแล้วหลายงาน
ตอนนี้สภาพของธรรมกายเปรียบเหมือนรัฐอิสระไปแล้ว ยากที่รัฐไทยจะเข้าไปแตะต้องได้
และถ้าหนีไปแล้วตามข่าว โอกาสเอาธัมมชโยมาขึ้นศาลก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีก เลยลอยนวลไปเหมือนยันตระ เณรคำนั่นแหละ
เห็นได้ชัดว่า แม้รัฐบาลประยุทธ์จะมีอำนาจเต็มเป็นรัฏฐาธิปัตย์แต่ก็ทำอะไรระบอบทักษิณไม่ได้ เชื่อเถอะว่าประชามติจะผ่านไม่ผ่านแต่ถึงเวลาเลือกตั้งพรรคของทักษิณก็กลับมาอีก ส่วนธัมมชโยไม่ต้องพูดถึงเพราะพล.อ.ประยุทธ์บอกแล้วว่ายังไม่ทำอะไร อย่างเก่งก็ได้แต่ตั้งข้อกล่าวหาขึ้นมา แต่เอาตัวธัมมชโยมาลงโทษไม่ได้
ดังนั้น มวลประชาชาวไทยก็ยังต้องเผชิญกับระบอบทักษิณและลัทธิธรรมกายต่อไป เพราะวันหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์และคณะก็ต้องจากไปตามครรลอง สังคมไทยก็ยังคงเป็นสังคมที่แตกแยกระหว่างฝ่ายที่เอาทักษิณกับฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณ ฝ่ายที่เอาธรรมกายและไม่เอาธรรมกายไปอีกนาน
ความขัดแย้งในสังคมไทยก็จะยังดำรงอยู่ไม่หายไปไหน
แล้วเราได้อะไรจากการรัฐประหาร
ถ้าเรายังทำอะไรระบอบทักษิณและจัดการกับลัทธิธรรมกายไม่ได้ เราก็แค่ได้ผู้มีอำนาจมาคณะหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง
เหตุการณ์ 2553 คือการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ใช้มวลชนเป็นโล่มนุษย์ และมีกองกำลังติดอาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ จนทหารต้องนำกองกำลังติดอาวุธไปสลายการชุมนุมนำมาสู่การเสียชีวิตของมวลชนเกือบร้อยชีวิต
พล.อ.ประยุทธ์พูดไม่ผิดหรอกว่า ถ้านำกองกำลังเข้าไปจับธัมมชโยจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกัน เพียงแต่ขณะนี้ธรรมกายยังไม่ปรากฏกองกำลังติดอาวุธที่แจ่มชัดเหมือนกับเสื้อแดงที่ปรากฏตัวในวันที่ 10 เมษายน 2553 ก่อนเกิดโศกนาฏกรรม เพราะสิ่งที่เราเห็นผ่านภาพข่าวการเตรียมของธรรมกายนั้นไม่ต่างกับคนเสื้อแดงเลย และดูแล้วยังยากกว่าการเข้าสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงเพราะธรรมกายมีป้อมค่ายเป็นรั้วรอบขอบชิดที่หนาแน่น
แถมสานุศิษย์ประกาศออกมาแล้วว่า จะยอมตายเพื่อธัมมชโย
การเชื่อมโยงเสื้อแดงกับธรรมกายของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เห็นว่า คนเสื้อแดงพากันออกมาปกป้องธัมมชโยอย่างเห็นได้ชัดว่าทั้งเสื้อแดงและธรรมกายเป็นแนวร่วมของกันและกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า ธรรมกายเป็นแหล่งพักพิงของคนเสื้อแดงมาตลอด
ทักษิณสร้างอาณาจักรทางโลก ในขณะที่ธัมมชโยสร้างอาณาจักรทางธรรม
คนเสื้อแดงเข้าใจว่าทักษิณคือวีรบุรุษประชาธิปไตย การต่อสู้เพื่อทักษิณคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เช่นเดียวกับสาวกของธัมมชโย ธัมมชโยคือพระอริยสงฆ์ การต่อสู้เพื่อธัมมชโยคือ การต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนา
ก่อนที่ทักษิณจะเร่ร่อนเขาเกือบยึดครองประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ เขาซื้อกระบวนการยุติธรรมบางลำดับชั้น ซื้อพรรคการเมือง ซื้อตัว ส.ส. ส.ว. ซื้อองค์กรอิสระ ซื้อนักวิชาการ ซื้อคนเดือนตุลาเข้ามาเป็นพวก ในขณะที่ธัมมชโยถวายปัจจัยจนมีพระผู้ใหญ่กลายเป็นพวกเกือบหมด มหาเถรสมาคมจึงเป็นองค์กรบ้าใบ้แม้พระองค์หนึ่งจะถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนหลักคำสอนของพุทธศาสนา ใช้เล่ห์เพทุบายหลอกลวงเอาเงินจากคนที่หลงศรัทธาราวกับมิจฉาชีพ
ยืนหยัดท้าทายอำนาจของสมเด็จพระสังฆราช ประมุขทางสงฆ์ไปจนท่านสิ้นพระชนม์ ทักษิณก็ท้าทายอำนาจรัฐไม่ต่างกันเลย
มีพระสงฆ์เพียงไม่กี่รูปที่ออกมาต่อต้านธัมมชโยจนเกือบจะเป็นเสียงส่วนน้อย ในขณะที่พระสงฆ์ส่วนใหญ่ยังคงนิ่งเงียบ นักวิชาการด้านศาสนาก็เหมือนกันมีเสียงต้านธัมมชโยอยู่บ้างแต่แผ่วเบามาก ทั้งที่หลักคำสอนของธัมมชโยนั้นผิดเพี้ยน และมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ล่อลวงจากการลุ่มหลงของสาวกมากกว่าการเป็นที่พึ่งพิงด้านจิตใจ และการมุ่งสอนให้คนประพฤติดี
ทักษิณสร้างมายาคติเรื่องประชาธิปไตยที่กินได้ ธัมมชโยสร้างสวรรค์ที่ซื้อได้ด้วยเงิน
ในขณะที่สื่อมวลชนก็ยังมีบางค่ายที่มีน้ำเสียงไปข้างธรรมกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายมติชน
ถ้ามองจากอดีตไม่น่าเชื่อว่าวันนี้มติชนจะยืนข้างธรรมกายธัมมชโย ภาพที่เห็นแชร์กันเป็นภาพคนพกปืนเหน็บที่เอวกำลังตีกับชาวนาในยุคเริ่มสร้างธรรมกายก็เป็นฝีมือของนักข่าวมติชน มติชนสุดสัปดาห์เคยพาดหัวขึ้นปกเปิดโปงธรรมกายว่าเป็นพุทธพาณิชย์ เวลาเปลี่ยนจุดยืนเปลี่ยน วันนี้ทิศทางของข่าวและบทความยืนข้างธรรมกายเต็มตัว
แต่ไม่แปลกอะไร เพราะนี่เป็นสื่อที่ยืนข้างระบอบทักษิณและคนเสื้อแดง
การมีปัญญาชนยืนข้างทักษิณและมีปัญญาชนยืนข้างธัมมชโย ทั้งสื่อและนักวิชาการเป็นภาพสะท้อนของสังคมที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะถ้าสื่อและนักวิชาการยังแยกแยะไม่ได้ มีคนบอกว่าทักษิณดี มีคนบอกว่าธัมมชโยดี ประชาชนยิ่งยากที่จะแยกแยะความผิดถูกได้ ดังนั้น จึงยังมีลิ่วล้อของทักษิณสร้างวาทกรรมหลอกลวงมวลชนตลอดเวลาว่า การสู้เพื่อทักษิณคือสู้เพื่อประชาธิปไตย การปกป้องธัมมชโยก็คือการปกป้องพุทธศาสนานั่นแล
ทั้งที่ทักษิณใช้คำว่าประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ และธัมมชโยใช้พุทธศาสนามาเป็นเครื่องมือหาประโยชน์
การฉ้อฉลฉ้อโกงและลวงโลกถูกปิดบังว่าเป็นเพียงอุดมการณ์ความเชื่อที่ต่างกัน ทักษิณเป็นคนดีแต่ถูกทำลายเพราะอิจฉาที่ทักษิณทำให้คนชั้นล่างอยู่ดีกินดีขึ้น เช่นเดียวกับธัมมชโยเป็นพระดีที่ถูกทำลายเพราะอิจฉาที่มีคนเลื่อมใสศรัทธามาก มอมเมาความเชื่อจนมีคนตายแทนทักษิณและธัมมชโยได้
แต่ผมไม่ค่อยเชื่อตรงที่พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า จะจับธัมมชโยได้ในชาตินี้ เพราะดูแล้วแม้จะยังอยู่ในวัดหรือไม่ก็ตาม ธัมมชโยก็เหมือนกับทักษิณนั่นแหละที่รัฐไทยไม่มีวันจับได้อีกแล้ว เพราะตราบที่ธัมมชโยยังจำศีลอยู่ในวัดไม่ออกมาข้างนอก อำนาจรัฐก็ไม่อาจแตะต้องธัมมชโยได้ ธัมมชโยแค่ซื้อเวลาให้รัฐบาลนี้จากไปตามโรดแมปเปลี่ยนรัฐบาลใหม่เมื่อไหร่นโยบายก็เปลี่ยน
ยิ่งถ้าเลือกตั้งแล้วพรรคของทักษิณกลับมา ธัมมชโยก็รอด ถึงวันนั้นอย่าไปหวังว่าดีเอสไอจะยังคงยืนหยัดต่อแนวทางที่ดำเนินอยู่ เพราะเราเห็นดีเอสไอมาแล้วหลายงาน
ตอนนี้สภาพของธรรมกายเปรียบเหมือนรัฐอิสระไปแล้ว ยากที่รัฐไทยจะเข้าไปแตะต้องได้
และถ้าหนีไปแล้วตามข่าว โอกาสเอาธัมมชโยมาขึ้นศาลก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีก เลยลอยนวลไปเหมือนยันตระ เณรคำนั่นแหละ
เห็นได้ชัดว่า แม้รัฐบาลประยุทธ์จะมีอำนาจเต็มเป็นรัฏฐาธิปัตย์แต่ก็ทำอะไรระบอบทักษิณไม่ได้ เชื่อเถอะว่าประชามติจะผ่านไม่ผ่านแต่ถึงเวลาเลือกตั้งพรรคของทักษิณก็กลับมาอีก ส่วนธัมมชโยไม่ต้องพูดถึงเพราะพล.อ.ประยุทธ์บอกแล้วว่ายังไม่ทำอะไร อย่างเก่งก็ได้แต่ตั้งข้อกล่าวหาขึ้นมา แต่เอาตัวธัมมชโยมาลงโทษไม่ได้
ดังนั้น มวลประชาชาวไทยก็ยังต้องเผชิญกับระบอบทักษิณและลัทธิธรรมกายต่อไป เพราะวันหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์และคณะก็ต้องจากไปตามครรลอง สังคมไทยก็ยังคงเป็นสังคมที่แตกแยกระหว่างฝ่ายที่เอาทักษิณกับฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณ ฝ่ายที่เอาธรรมกายและไม่เอาธรรมกายไปอีกนาน
ความขัดแย้งในสังคมไทยก็จะยังดำรงอยู่ไม่หายไปไหน
แล้วเราได้อะไรจากการรัฐประหาร
ถ้าเรายังทำอะไรระบอบทักษิณและจัดการกับลัทธิธรรมกายไม่ได้ เราก็แค่ได้ผู้มีอำนาจมาคณะหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง