อดีต ส.ส.ปชป.ห่วงกระทรวงพลังงานลักไก่เสนอต่ออายุสัมปทานก๊าซแหล่งเอราววัณ-บงกช ก่อนแก้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ส่อเอื้อเอกชนเจ้าเดิม บี้ทบทวน รอแก้กฎหมายเพิ่มทางเลือกให้ชาติก่อน เชื่อไม่เกิน 1 เดือน ฟันธงดึงดันเดินหน้าสัมปทานรอบ 21 เสร็จเชฟรอน-ปตท.สผ.แน่
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ กระทรวงพลังงานจะเสนอเรื่องการต่ออายุสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติ เอราวัณและบงกช ที่จะหมดอายุในปี 2565 และ 2566 โดยจะเจรจากับเจ้าของสัมปทานเดิมก่อน หากไม่สำเร็จจึงเปิดประมูลรายใหม่ต่อที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตนเห็นว่าไม่เหมาะสมเนื่องจากควรรอให้การแก้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเสร็จสิ้นก่อน เพราะร่างกฎหมายก็ผ่านสำนักงานกฤษฎีกามาแล้ว เหลือแค่เข้าสภา สนช. หากไม่มีการดึงเกมก็คาดว่าประมาณ 1 เดือนน่าจะแล้วเสร็จซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องวนกลับมาทะเลาะกับภาคประชาชนในเรื่องนี้อีก
“ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ที่แก้กันอยู่จะช่วยเพิ่มทางเลือกว่าจะทำสัมปทานระบบรับเป็นเงินค่าภาคหลวงแบบเดิม หรือระบบแบ่งปันผลผลิต หรือจ้างผลิตก็ได้ และยังแก้ปัญหานำค่าใช้จ่ายหลุมเก่ามาหักภาษีหลุมใหม่ด้วย หากไม่รอแก้กฎหมาย เกณฑ์ใหม่จะไปใช้ตอนไหน เพราะหากต่ออายุให้เจ้าเดิม คือ เชฟรอน กับ ปตท.สผ. ในแหล่งบงกช กับเอราวัณไปแล้วก่อนรอกฎหมายออก ก็เท่ากับว่าสัมปทานรอบ 21 ก็คงเสร็จเจ้าเดิมเช่นกัน เพราะพื้นที่สัมปทาน 21 กับ 2 แหล่งดังกล่าวมันใกล้กัน ผมคิดว่าการต่ออายุสัมปทานแหล่งเอราวัณ-บงกช สำคัญกว่าสัมปทานรอบที่ 21 มาก เพราะทั้ง 2 แหล่งนี้มีก๊าซแน่ๆ โดยสามารถผลิตก๊าซได้ 70% ของการผลิตก๊าซทั้งอ่าวไทย คิดเป็น 50% ของความต้องการของประเทศ” นายอรรถวิชช์กล่าว