xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ย้ำปม ปตท.คืนท่อก๊าซฯ ไม่ถูกต้อง ส่อให้การเท็จศาลปกครองสูงสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตัวแทน คปพ.ย้ำเหตุ สตง.มีความเห็น ปตท.คืนท่อก๊าซฯ ให้กระทรวงการคลังไม่ถูกต้อง เหตุมุบมิบโอนกันเอง ไม่ผ่านการตรวจสอบและความเห็นชอบจาก สตง. ซ้ำไม่รายงาน ครม.ให้ทราบ ฝ่าฝืนมติ ครม.18 ธ.ค. 50 แต่กลับไปให้ข้อมูลเท็จต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 51

วันนี้ (21 พ.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฤษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กรณีที่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) คืนท่อก๊าซให้กระทรวงการคลังไม่ครบตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ว่าหัวใจประการสำคัญอยู่ที่ “มีการรายงานเท็จในสาระสำคัญต่อศาลปกครองสูงสุด” จริงหรือไม่ ที่ว่าเท็จนั้นเพราะ ปตท. โดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดวันที่ 25 ธ.ค. 2551 อ้างว่า “ผู้ถูกฟ้องทั้ง 4 คือ ครม., นายกรัฐมนตรี, รมต.พลังงาน ปตท. และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันโอนทรัพย์สินครบตามคำพิพากษาแล้ว

“ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ปตท. และกระทรวงการคลังไปดำเนินการโอนท่อกันเอง โดยไม่ทำตามมติ ครม. ว่าต้องให้ สตง.ตรวจสอบและรับรองความถูกต้องก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อ 18 ธ.ค. 2550

การที่ ปตท.กับ กระทรวงการคลัง ไปโอนท่อกันเองแล้ว ปตท.โดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังไปรายงานการแบ่งแยกทรัพย์สินต่อศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2551 โดยปราศจากการรับรองความถูกต้องจาก สตง.เสียก่อน จึงเป็นการฝ่าฝืนมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2550”

นายปานเทพระบุอีกว่า นอกจากนี้เมื่อ ปตท.ดำเนินการโอนทรัพย์สินให้กระทรวงการคลัง โดยปราศจากความเห็นชอบจาก สตง.แล้ว ก็ยังไม่ได้นำกลับไปเสนอขอความเห็นชอบจาก ครม.อีกครั้ง (ซึ่ง ครม.เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และมีนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องที่ 2 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 3 ต่างอยู่ใน ครม.ทั้งสิ้น)

“คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) จึงมีมติว่าขาดความเห็นชอบจากผู้ถูกฟ้องอีก 3 ราย คือ ครม. นายกรัฐมนตรี และกระทรวงพลังงาน การดำเนินการเช่นนี้ จึงย่อมไม่ใช่ผลการดำเนินการของผู้ถูกฟ้องทั้ง 4 ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ได้ระบุเอาไว้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2550 การแบ่งแยกทรัพย์สินครั้งนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรายงานเท็จต่อศาลปกครองสูงสุด จริงหรือไม่”


กำลังโหลดความคิดเห็น