รองนายกรัฐมนตรีไม่หวั่น “อัครา” เจ้าของเหมืองแร่พิจิตรฟ้องกลับ หลังไม่ต่อสัมปทาน ชี้ถ้าคิดว่าเสียหายไปฟ้องศาลได้ เผยยังไม่ได้รับรายงานมติ สตง.ให้เอาผิด “หมอเลี้ยบ” และพวก พร้อมบี้ ปตท.คืนท่อก๊าซ รอดูความชัดเจนอีกครั้ง อ้าง ปตท.ทำตามคำสั่งศาลปกครองครบถ้วน
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.15 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มีโอกาสต่อสู้ในแง่ข้อกฎหมายได้หรือไม่ ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติไม่ต่ออายุสัมปทานเหมืองทองคำ จ.พิจิตร ที่จะหมดลงในปีนี้ว่า ในแง่ข้อกฎหมายต้องกลับไปดู เงื่อนไขสัญญาสัมปทาน แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะฟ้องร้องได้ เพราะสัญญานั้นหมดอายุแล้ว และ ครม.ไม่ได้อนุญาตต่ออายุสัญญาให้
ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัท อัครา รีซอร์สเซสฯ ยืนยันว่ามีสัญญาสัมปทานถึงปี 2571 นั้น นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบในส่วนนี้ ต้องถามไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม เพราะขณะนี้ที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงาน คือ ต่ออายุสัมปทานให้จนถึงแค่สิ้นปี แสดงว่ามีอายุสัมปทานแค่นั้น หากยาวมากกว่านั้น เขาจะหยุดไว้แค่นั้นได้อย่างไร
เมื่อถามว่า ทางบริษัทเอกชนดังกล่าวดูเหมือนจะฟ้องร้องกลับ นายวิษณุกล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาคิดว่าได้รับความเสียหาย เขาก็สามารถไปขอให้สิทธิทางศาลได้ เหมือนอย่างที่รัฐโดนมาหลายเรื่องแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ถูกผิดก็ต้องไปพูดกันในศาล และหากศาลสั่งว่าต้องให้เปิดดำเนินการ รัฐบาลก็ต้องเปิดให้
นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีมติให้ดำเนินคดีต่อ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.คลัง กับพวกรวม 6 คน กรณีไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และมติ ครม.ที่ให้คืนท่อก๊าซของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แก่กระทรวงการคลัง แต่กลับดำเนินการคืนไม่ครบจนทำให้รัฐเกิดความเสียหายมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาทว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว เพียงแต่เห็นข่าว
เมื่อถามว่า มีการให้ ครม.ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้บังคับคดีภายใน 60 วัน นับจากวันที่ได้รับแจงจาก คตง. นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรื่องส่งมาค่อยว่ากันต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า สามารถให้ ปตท.คืนท่อก๊าซในส่วนที่เหลือให้เป็นไปตามคำสั่งศาลได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คงต้องดูกระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และ ปตท. ตนยังตอบไม่ถูก เรื่องนี้มันยืดยาว พอจะทราบความเป็นมา แต่จะดำเนินการอย่างไรนั้นเอาไว้ค่อยว่ากันอีกที เพราะยังไม่รู้ว่าหนังสือของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะมีความชัดเจนขนาดไหน ว่าต้องทำอะไร อย่างไร เพราะ ปตท.ได้ยืนยันว่าดำเนินการครบถ้วนแล้วตามคำพิพากษาศาลปกครอง
เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลต้องปฏิบัติตามมติ คตง.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในบางกรณีใช่ แต่คงไม่ใช่ทุกกรณี ต้องดูน้ำหนักข้อกฎหมายและเหตุผลว่า เขาได้อ้างมาตราใดและดำเนินการอย่างไร เพราะหลายครั้งเป็นคำแนะนำ กระทรวงต่างๆ ได้รับหนังสือจาก สตง.ไม่เว้นแต่ละวันในแต่ละเรื่อง บางเรื่องชี้แจงไปก็จบ อย่างกรณีการพักงานเจ้าหน้าที่รัฐ สตง.ก็มีหนังสือมา ซึ่งที่จริงมีจำนวนมากกว่าที่พักไปแล้วเสียอีก และเมื่อพิจารณาและเห็นว่ายังไม่สมควรหรือจำเป็นก็ไม่ได้พัก ซึ่ง สตง.ไม่ได้ว่าอะไร รายใดที่เห็นด้วยก็พักไปตามนั้น
ส่วนกรณีที่ขีดเส้นไว้ 60 วันให้ ครม.ส่งเรื่องถึงศาลปกครองสูงสุดเพื่อให้บังคับคดี นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าระยะเวลาไม่พอสามารถทำหนังสือแจ้งขอขยายได้ แต่ตนยังไม่ทราบในส่วนดังกล่าว จึงขอดูหนังสือ สตง.ก่อน