xs
xsm
sm
md
lg

คตร.สอบประมูลสร้างถนนเส้น ฉช.3001 ส่อฮั้ว รัฐเสียหายไม่ต่ำกว่า 600 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ท.ชาตอุดม ติตถะสิริ (แฟ้มภาพ)
คตร.เดินหน้าสอบโครงการก่อสร้างถนนสาย ปม “ทางหลวงชนบท” หลังเอกชนร้องประมูลสร้างถนนเส้น “ฉช.3001” งบ 4.5 พันล้านส่อฮั้ว “หจก.สามประสิทธิ์” โวยเสนอราคาต่ำสุดแต่ถูกกีดกัน เชื่อมีล็อกงานกันอยู่แล้ว แฉทำรัฐเสียหายไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท วอนนายกฯสั่งทบทวนด่วน

วันนี้ (15 พ.ค.) รายงานข่าวจากคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ คตร.ที่มี พล.ท.ชาตอุดม ติตถะสิริ รองเสนาธิการทหาร เป็นประธาน ยังดำเนินงานงานตรวจสอบโครงการของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องที่เพิ่งมีการนำเข้าสู่การพิจารณาล่าสุด เป็นโครงการก่อสร้างถนนสาย ฉช 3001 แยก ทล.314-ลาดกระบัง จ.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ ที่เป็นโครงการขยายช่องจราจรจาก 2 เป็น 4-6 ช่องจราจร ระยะทาง 20.329 กม. วงเงินประมาณ 4,500 ล้านบาท ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ซึ่งได้ดำเนินการประกวดราคา และได้ผู้ชนะไปแล้วเมื่อช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่าน อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามประสิทธิ์ (หจก.สามประสิทธิ์) ซึ่งเข้าร่วมการประกวดราคาด้วย ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามายัง คตร.เพื่อให้ทำการตรวจสอบทบทวนผลการประกวดราคา เนื่องจาก หจก.สามประสิทธิ์ เห็นว่าการประกวดราคาไม่โปร่งใส ส่งผลให้ หจก.สามประสิทธิ์ ถูกกีดกัน ทั้งที่เสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะ

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกเหนือจาก คตร.แล้ว หจก.สามประสิทธิ์ ยังได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปถึง นายกรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด้วย โดยได้ชี้แจงมูลเหตุในการขอความเป็นธรรมอย่างละเอียด โดยมีสาระสำคัญ เช่น โครงการก่อสร้างถนนสาย ฉช.3001 แยก ทล.314-ลาดกระบัง จ.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ นั้น ทช.ได้แบ่งการดำเนินการเป็น 2 สัญญา และกำหนดวงเงินแยกตามสัญญา คือ สัญญาที่ 1 ระยะทาง 11 กิโลเมตร วงเงิน 1,918 ล้านบาทเศษ และสัญญาที่ 2 ระยะทาง 9.3 กิโลเมตร วงเงิน 2,631 ล้านบาทเศษ หจก.สามประสิทธิ์ ได้ยื่นเสนอราคาตามกำหนดเมื่อวันที่ 4 มี.ค.59 โดยสัญญาที่ 1 เป็นเงิน 1,524 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 เป็นเงิน 2,421 ล้านบาท จนเมื่อวันที่ 11 มี.ค.59 ทช.ได้แจ้งผลการประกวดราคาปรากฎว่า บริษัท กรีนไลท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ชนะในสัญญาที่ 1 วงเงิน 1,913 ล้านบาทเศษ และห้างหุ้นส่วนจำกัด นภาก่อสร้าง เป็นผู้ชนะในสัญญาที่ 2 วงเงิน 2,630 ล้านบาทเศษ

“ผลการประกวดราคาทั้ง 2 สัญญา สูงกว่าวงเงินที่ หจก.สามประสิทธิ์ เสนอราคาไป รวมเป็นเงินสูงถึง 599 ล้านบาทเศษ ซึ่งถือเป็นวงเงินที่ทำให้ราชการเสียหาย” หนังสือ หจก.สามประสิทธิ์ ระบุ

ในหนังสือขอความเป็นธรรม ยังแจ้งด้วยว่า ก่อนที่จะมีการประกาศผลการประกวดราคา ทช.ได้ทำหนังสือถึง หจก.สามประสิทธิ์ ลงวันที่ 8 มี.ค.59 เพื่อให้ชี้แจงคุณสมบัติผลงานก่อสร้างถนนในวงเงินไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งกำหนดไว้ในประกาศของ ทช. ทาง หจก.สามประสิทธิ์ จึงได้ชี้แจงไปว่า มีผลงานโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดบริเวณวงเวียนราชพฤกษ์-นครอินทร์ วงเงิน 794 ล้านบาท ซึ่งได้ใช้อ้างอิงในเอกสารเสนอราคาเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ไปแล้ว แต่ ทช.กลับไม่รับราคาต่ำสุดที่ หจก.สามประสิทธิ์ เสนอ โดยมีความเห็นว่า หจก.สามประสิทธิ์ ขาดคุณสมบัติโดยตีความว่า โครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดบริเวณวงเวียนราชพฤกษ์-นครอินทร์ เป็นโครงการสร้างอุโมงค์ ไม่ได้เป็นผลงานสร้างถนนตามที่ ทช.ได้ประกาศไว้ ทั้งที่ไม่ได้ระบุรายละเอียดไว้อย่างชัดเจนว่า เป็นผลงานถนนประเภทใด นอกจากนี้ หจก.สามประสิทธิ์ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การที่ ทช.กำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาต้องมีผลงานก่อสร้างถนนวงเงินไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท ในสัญญาจ้างเดียว ซึ่งใช้กับการจ้างทั้ง 2 โครงการที่มีมูลค่าไม่เท่ากัน มีนัยเป็นการกีดกันผู้รับจ้างรายอื่นให้เหลือเฉพาะกลุ่มที่ได้สมยอมตกลงแบ่งงานกันไว้แล้ว

“เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงว่า หจก.สามประสิทธิ์ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดของทั้ง 2 สัญญา แต่มิได้รับเลือกเข้าต่อรองราคาจากกรมทางหลวงชนบท อีกทั้งผู้ที่ได้รับเลือกพิจารณาทั้ง 2 สัญญา เป็นผู้เสนอราคาใกล้เคียงกัน และต่ำกว่าราคากลางที่กรมทางหลวงชนบท กำหนดไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อันแสดงให้เห็นว่า หจก.สามประสิทธิ์ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ทำข้อตกลงแบ่งงานโครงการไว้อยู่แล้ว” หนังสือ หจก.สามประสิทธิ์ ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น